หากคุณกำลังเจอปัญหา ไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น อยู่ ๆ เครื่องดับเอง เปิดเอง หรือบางครั้งชาร์จแบตไม่เข้า เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้อาจสร้างความรำคาญและทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มที่ แต่ไม่ต้องกังวล!

อาการไอโฟนดับ ๆ ติด ๆ อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น แบตเตอรี่เสื่อม ระบบทำงานผิดพลาด หรือมีปัญหาด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งบางกรณีสามารถแก้ไขเองได้โดยไม่ต้องส่งซ่อม บทความนี้จะพาคุณไล่เช็กสาเหตุ พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาไอโฟนดับเอง เปิดเองเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้เองง่าย ๆ ลองไปดูกันเลย!

แชทไอจีหาย

สาเหตุที่ทำให้ไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ

การรีสตาร์ท iPhone อัตโนมัติอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้:

  • แบตเตอรี่เสื่อมหรือเสียหาย: หากไอโฟนถูกใช้งานมานาน ความจุแบตเตอรี่ลดลง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไอโฟนชาร์จไม่เข้า ติด ๆ ดับ ๆ สามารถเช็กสุขภาพแบตได้ที่ Settings > Battery > Battery Health & Charging
    อ่านเพิ่มเติม: แบตไอโฟนเสื่อมเร็ว? เพิ่มสุขภาพแบตให้อยู่ได้นานขึ้น!

  • iOS อัปเดตผิดพลาด: หลังจากอัปเดต iOS บางครั้งอาจเกิดข้อผิดพลาดที่ทำให้เครื่องรีสตาร์ทเอง และเป็นสาเหตุของ iPhone ติด ๆ ดับ ๆ สามารถลอง Hard Reset หรือรีเซ็ตการตั้งค่าเพื่อแก้ไขปัญหา

  • แอปพลิเคชันทำงานผิดปกติ: บางแอปอาจใช้พลังงานสูงจนทำให้ไอโฟนต้องดับเอง เปิดเอง หรือการรีสตาร์ทเครื่องเพื่อป้องกันเครื่องร้อนเกินไป ควรอัปเดตหรือ ลบแอปที่ค้างบ่อย ๆ แล้วลองใช้งานอีกครั้ง

  • ปัญหาฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ดเสียหาย: อีกหนึ่งสาเหตุของโทรศัพท์ติด ๆ ดับ ๆ ของไอโฟน อาจเกิดจากชิ้นส่วนภายในเสียหายจากความชื้นหรือแรงกระแทก หากเกิดขึ้นบ่อย ควรนำเครื่องเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ

  • ไอโฟนผ่านการเจลเบรก: เครื่องที่ถูกเจลเบรกอาจมีปัญหาความเสถียรของระบบ ทำให้รีสตาร์ทเอง หากเกิดปัญหาควรคืนค่า iOS เป็นเวอร์ชันเดิม เพื่อความปลอดภัย

3 วิธีแก้ปัญหาไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ และรีสตาร์ทเองไม่หยุด

หาก iPhone ติด ๆ ดับ ๆ หรือรีสตาร์ทเองซ้ำ ๆ ปัญหานี้มักเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม หรือฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ดมีปัญหา ซึ่งผู้ใช้งานไม่รู้ว่าปัญหาไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ ทำไง แก้ยังไง? ไม่ต้องกังวล! เพราะเรามี 3 วิธีแก้ไขมาแนะนำในส่วนนี้ สามารถช่วยให้ไอโฟนกลับมาใช้งานได้ปกติอีกครั้ง

1แก้ไขปัญหาไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ ด้วยคลิกเดียว [ไม่สูญเสียข้อมูล]

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ปัญหาไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ อาจเกิดจากระบบ iOS มีข้อผิดพลาด หรืออัปเดตไม่สมบูรณ์ วิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ไขได้โดยไม่ต้องล้างข้อมูลคือ ใช้ iMyFone Fixppo ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับซ่อมแซมระบบ iOS โดยเฉพาะ

iMyFone Fixppo

คุณสมบัติหลักของ Fixppo

  • แก้ปัญหาที่เกี่ยวกับ iOS ได้ภายในคลิกเดียว โดยไม่สูญเสียข้อมูล
  • ดาวน์เกรด iOS เป็นเวอร์ชันก่อนหน้าโดยไม่ต้องเจลเบรค
  • เพียงแค่ติดตั้งโปรแกรมและใช้ฟังก์ชั่น "เข้า/ออกโหมดการกู้คืน" เพียงคลิกครั้งเดียวได้ตลอดเวลา ฟรีโดยสิ้นเชิง
  • แก้ไขปัญหา iOS/iPadOS มากกว่า 150 รายการ เช่น ไอโฟนหยุดชาร์จที่ 80%, ไอโฟนจอขาว, ไลน์ดูรูปไม่ได้และไอโฟนเปิดเน็ตไม่ได้หลังจากอัปเดต
  • รองรับ iOS เวอร์ชันและอุปกรณ์ทั้งหมดทั้ง iOS 18 และ iPhone 16 รุ่นใหม่
  • ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากผู้ใช้และแนะนำเป็นอย่างยิ่งโดยไซต์ที่มีชื่อเสียง เช่น Trustpilot

▼ วิธีใช้ Fixppo เพื่อแก้ปัญหาไอโฟนดับเอง เปิดเอง

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้ง Fixppo ลงบนคอมพิวเตอร์ และเลือกโหมด "ซ่อมแซมมาตรฐาน"

เลือกโหมดมาตรฐาน Fixppo

ขั้นตอนที่ 2: นำ iPhone มาเชื่อมต่อเข้ากับคอมฯโดยใช้สาย USB จากนั้นทำตามคำแนะนำบนหน้าจออย่างละเอียด

ขั้นตอนที่ 3: เครื่องมือจะให้คุณดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ โดยให้คุณกด "ดาวน์โหลด"

ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ภายใต้โหมดมาตรฐาน

ขั้นตอนที่ 4: เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้กด "เริ่มการซ่อมแซมมาตรฐาน" และใช้เวลาไม่นาน เครื่องมือจะซ่อมแซมปัญหาได้หายห่วง

เริ่มซ่อมอุปกรณ์ของคุณ

2 DFU Restore ผ่าน iTunes

สำหรับใครที่มีปัญหาไอโฟนดับ ๆ ติด ๆ หรือรีสตาร์ทเองไม่หยุด คุณสามารถแก้ปัญหาด้วยวิธี DFU เพื่อคืนค่าระบบ iPhone ได้เช่นกัน

แต่ทั้งนี้ วิธีนี้จะลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ซึ่งเราขอแนะนำว่าก่อนทำการคืนค่าระบบ ควรสำรองข้อมูลของ iPhone ไปคอมฯ เอาไว้ก่อน

นี่คือวิธีการแก้ไขไอโฟนดับ ๆ ติด ๆ:

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง iTunes รุ่นล่าสุดบนคอมพิวเตอร์ และเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB

ขั้นตอนที่ 2: เข้าสู่โหมด DFU โดยทำตามขั้นตอนตามรุ่นของ iPhone

  • iPhone X และรุ่นที่ใหม่กว่า:
    - กดปุ่ม "เพิ่มเสียง" แล้วปล่อย กดปุ่ม "ลดเสียง" แล้วปล่อย จากนั้นกดปุ่ม "เปิด/ปิด" ค้างจนหน้าจอดับ
    - กดปุ่ม "ลดเสียง" ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที และปล่อยปุ่ม "เปิด/ปิด" แต่ยังคงกดปุ่ม "ลดเสียง" ค้างไว้อีก 10 วินาที จนเครื่องเข้าสู่ DFU Mode

  • iPhone 8/8 Plus:
    - กดปุ่ม "เปิด/ปิด" ค้าง 5 วินาที แล้วกดปุ่ม "ลดเสียง" ค้างไว้อีก 10 วินาที จากนั้นปล่อยปุ่ม "เปิด/ปิด" แต่ยังคงกดปุ่ม "ลดเสียง" จนเข้าสู่ DFU Mode

  • iPhone 7/7 Plus:
    - กดปุ่ม "ด้านข้าง" และ "ลดเสียง" ค้างไว้พร้อมกัน 10 วินาที จากนั้นปล่อยปุ่ม "ด้านข้าง" และกดปุ่ม "ลดเสียง" ค้างไว้ 5 วินาที

  • iPhone 6 หรือรุ่นก่อนหน้า:
    - กดปุ่ม "โฮม" และปุ่ม "เปิด/ปิด" ค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นปล่อยปุ่ม "เปิด/ปิด" และกดปุ่ม "โฮม" ค้างไว้จนเข้าสู่ DFU Mode


🌟 หากคุณคิดว่าการทำงานโหมด DFU ซับซ้อนเกินไป คุณสามารถลองใช้ iMyFone Fixppo เพื่อ "เข้าด้วยคลิกเดียว" ได้ (ฟังก์ชันฟรี)!

ขั้นตอนที่ 3: เมื่อ iPhone เข้าสู่ DFU Mode แล้ว Tunes จะถามว่า "ต้องการคืนค่ากลับไปยังการตั้งค่าจากโรงงานหรือไม่" ให้คลิก "Restore" หรือ "คืนค่า"

คืนค่า

ขั้นตอนที่ 4: รอจนกว่ากระบวนการเสร็จสิ้น ซึ่ง iPhone จะรีสตาร์ทอัตโนมัติ และเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าใหม่ ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อตั้งค่า iPhone ใหม่ หลังจากนั้นเช็คว่าปัญหาไอโฟนดับเอง เปิดเองหายไปหรือไม่

3 ติดต่อศูนย์บริการ Apple

เมื่อลองทำตามทุกวิธีที่กล่าวมาแล้ว iPhone ยังติด ๆ ดับ ๆ หรือรีสตาร์ทเองไม่หยุด อาจเป็นไปได้ว่าสาเหตุเกิดจากฮาร์ดแวร์เสียหาย เช่น แบตเตอรี่เสื่อม, เมนบอร์ดมีปัญหา หรือชิ้นส่วนภายในเกิดความเสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ การแก้ไขด้วยซอฟต์แวร์อาจไม่สามารถช่วยได้

วิธีติดต่อศูนย์บริการ Apple

  • นัดหมายผ่าน Apple Support โดยเข้าไปที่ Apple Support และเลือกปัญหาที่พบ
  • จองคิวเพื่อนำเครื่องเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการ
  • นำเครื่องไปที่ Apple Store หรือศูนย์ซ่อมที่ได้รับอนุญาตของ Apple ใกล้คุณ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเสนอแนวทางแก้ไข

4 วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยไม่ใช้เครื่องมือ

หากไอโฟนดับ ๆ ติด ๆ หรือรีสตาร์ทวนซ้ำ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเกิดจากแอปไม่รองรับ, ซอฟต์แวร์ผิดพลาด หรือเครื่องผ่านการเจลเบรก ลองใช้ 4 วิธีแก้ไขเบื้องต้น เพื่อแก้ปัญหาก่อนส่งซ่อม

1 ถอดซิมการ์ดออกจากเครื่อง

บางครั้งปัญหาเครือข่ายอาจทำให้ iPhone ติดอยู่ใน Boot Loop (รีสตาร์ทวนซ้ำ) การถอดซิมการ์ดอาจช่วยแก้ปัญหาได้

วิธีแก้ไข: ปิดเครื่อง iPhone > ใช้เข็มจิ้มซิม เพื่อถอดซิมการ์ดออก > รอประมาณ 30 วินาที > ใส่ซิมการ์ดกลับเข้าไป > เปิดเครื่องใหม่และตรวจสอบว่าอาการรีสตาร์ทเองหายไปหรือไม่

ถอดซิมการ์ดออกจากเครื่อง

1 อัปเดต iOS และแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

ปัญหาไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ บางครั้งเกิดจากแอปที่ล้าสมัยอาจทำให้เครื่องรีสตาร์ทเอง ควรตรวจสอบและอัปเดตทั้ง iOS และแอปพลิเคชัน

วิธีอัปเดตแอป: ไปที่ App Store > Account (มุมขวาบน) > Update All

วิธีอัปเดตแอป

วิธีอัปเดต iOS: ไปที่ "การตั้งค่า" > "ทั่วไป" > "รายการอัปเดตซอฟต์แวร์" หากมีเวอร์ชันใหม่ ให้เลือก "ดาวน์โหลดและติดตั้ง"

วิธีอัปเดต iOS

3 รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด (Reset All Settings)

เป็นไปได้ว่าบางครั้งค่าการตั้งค่าที่ผิดพลาดอาจทำให้ไอโฟนติด ๆ ดับ ๆ การรีเซ็ตจะช่วยคืนค่าตั้งค่าเดิมโดย ไม่ลบข้อมูลในเครื่อง

วิธีรีเซ็ตการตั้งค่า: ไปที่ "การตั้งค่า" > "ทั่วไป" > "ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต" > "รีเซ็ต" > "รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด"

รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด

4 บังคับรีสตาร์ท iPhone (Force Restart)

สำหรับวิธีนี้ เรียกได้ว่าแทบจะเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างดี โดยการบังคับไอโฟนให้รีสตาร์ท ซึ่งมีขั้นตอนในการทำดังนี้

iPhone 8, iPhone SE (Gen 2 ขึ้นไป), iPhone X, 11, 12, 13, 14, 15, 16

  • กดปุ่ม "เพิ่มเสียง" 1 ครั้ง และกดปุ่ม "ลดเสียง" 1 ครั้ง จากนั้นกดปุ่ม "เปิด/ปิด" ค้างไว้จนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏ

iPhone 7, iPhone 7 Plus

  • กดปุ่ม "ลดเสียง" + ปุ่ม "เปิด/ปิด" ค้างไว้จนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏ

iPhone 6s หรือรุ่นเก่ากว่า

  • กดปุ่ม "โฮม" พร้อมกับ "เปิด/ปิด" ค้างไว้จนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ iPhone ติด ๆ ดับ ๆ

1 iPhone ตกน้ำแล้วติด ๆ ดับ ๆ ต้องทำอย่างไร?

เมื่อ iPhone ตกน้ำแล้ว ควรปิดเครื่องทันทีเพื่อลดความเสียหาย ห้ามกดปุ่มใด ๆ หรือเสียบชาร์จ เพราะอาจทำให้วงจรภายในลัดวงจร

  • หากเปิดเครื่องได้ ควรรีบสำรองข้อมูลทันที
  • ใช้ผ้านุ่มเช็ดเครื่องให้แห้ง แล้วปล่อยให้ระบายความชื้นตามธรรมชาติ (ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมหรือแช่ในข้าวสาร เพราะอาจทำให้เกิดความชื้นภายในเครื่องมากขึ้น)
  • หากยังเปิดเครื่องไม่ได้ ลองเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และใช้ iTunes หรือ Finder กู้คืนระบบ (ข้อมูลอาจสูญหาย)

อย่างไรก็ตาม เครื่องที่โดนน้ำอาจมีปัญหาภายในมากกว่าที่เห็น ควรนำไปให้ช่างตรวจสอบโดยเร็ว

2 ไอโฟนชาร์จไม่เข้า ติด ๆ ดับ ๆ ควรทำอย่างไร?

อาการไอโฟนชาร์จไม่เข้า ติด ๆ ดับ ๆ อาจเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม ที่ชาร์จไม่ได้มาตรฐาน หรือระบบ iOS มีข้อผิดพลาด

  • เช็กสุขภาพแบตเตอรี่ > หากสถานะ Maximum Capacity ต่ำกว่า 80% แสดงว่าแบตเริ่มเสื่อม ควรเปลี่ยน
  • ใช้อุปกรณ์ชาร์จและสายชาร์จของแท้จาก Apple และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการรับรอง (MFi)
  • อัปเดต iOS หรือรีเซ็ตระบบ หากยังมีปัญหา ลองรีเซ็ตการตั้งค่าโดยเลือก Reset All Settings

⛵ บทสรุป

iPhone ที่รีสตาร์ทเองไม่หยุดสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น Force Restart, อัปเดต iOS, รีเซ็ตการตั้งค่า หรือ DFU Restore หากต้องการวิธีที่ปลอดภัยและไม่ยุ่งยาก iMyFone Fixppo เป็นตัวเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องล้างข้อมูล รับรองลองใช้ iMyFone Fixppo เพื่อซ่อมแซมระบบ iOS อย่างง่าย ไม่มีผิดหวัง ไม่ต้องส่งศูนย์!