ปัจจุบันในกลุ่มสตรีมเมอร์ มักจะใช้โปรแกรมเปลี่ยนเสียงที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง "Voicemod" ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถเปลี่ยนเสียงได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยฟิลเตอร์เสียงกว่า 80 แบบ คุณไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือราคาแพง เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์ คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนเสียงได้ตามใจชอบ ทำให้สตรีมเมอร์และนักเล่นเกมมืออาชีพหลายคนเลือกใช้ Voicemod เสียงผู้หญิงในการสร้างเนื้อหาที่แตกต่างไปจากเดิม

การเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิง ด้วย Voicemod ช่วยให้การเปลี่ยนเสียงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย สำหรับบทความนี้ เราจะมาอธิบายขั้นตอนการตั้งค่า Voicemod เพื่อเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิง และรีวิวประสบการณ์การใช้งานจริงของโปรแกรมนี้กัน

Voicemod เสียงผู้หญิง

วิธีตั้งค่าเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิงใน Voicemod ผ่านฟีเจอร์ "VOICEBOX"

สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิงในโปรแกรม Voicemod สามารถใช้ฟีเจอร์ "VOICEBOX" ภายใน VOICEBOX มีเอฟเฟกต์เสียงมากกว่า 80 แบบที่สามารถช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนเสียงของคุณให้เป็นเสียงผู้หญิงได้อย่างง่ายดายและมีความสมจริง

▼ ขั้นตอนการใช้ Voicemod เสียงผู้หญิง

❗❗หมายเหตุ: ชื่อฟิลเตอร์และหน้าจออาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชันของ Voicemod ที่คุณใช้งาน

ขั้นตอนที่ 1: เริ่มต้นด้วยการเข้าเว็บไซต์ Voicemod เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าไมโครโฟนและหูฟังที่คุณใช้งานผ่านหน้าจอการตั้งค่าเสียงของ Voicemod

ตั้งค่าเบื้องต้นของ Voicemod

ขั้นตอนที่ 3: ไปที่เมนู "Voices" ที่อยู่ด้านซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเลือกเอฟเฟกต์ "Girl" เพื่อเปลี่ยนเสียงของคุณเป็นเสียงผู้หญิง

ขั้นตอนที่ 4: เมื่อคุณพูดผ่านไมโครโฟน เสียงของคุณจะถูกเปลี่ยนเป็นเสียงผู้หญิงทันที

เปลี่ยนเป็นเสียงผู้หญิงทันที

วิธีสร้างเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิงด้วย Voicemod ผ่านฟีเจอร์ "VOICELAB"

อีกหนึ่งวิธีในการใช้ Voicemod เสียงผู้หญิง คือ การสร้างเอฟเฟกต์เสียงเองผ่านฟีเจอร์ "VOICELAB" ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้คุณปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการ เพื่อสร้างเสียงผู้หญิงในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้

▼ ขั้นตอนการสร้างเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิงใน VOICELAB

ขั้นตอนที่ 1: เปิดโปรแกรม Voicemod แล้วคลิกที่แถบ "VOICELAB" ทางด้านซ้ายของหน้าจอ

ขั้นตอนที่ 2: หากมีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้น ให้คลิก "เปิดใช้งาน" เพื่อเริ่มการใช้งาน VOICELAB

สร้างเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิงใน VOICELAB

ขั้นตอนที่ 3: ในเมนูการตั้งค่า ให้เปิดฟีเจอร์ "Pitch" และตั้งค่า "MIX" เป็น 100 และ "Pitch" เป็น 70

ขั้นตอนที่ 4: เปิดฟีเจอร์ "Reverb" และตั้งค่า "MIX" เป็น 9 และ "Room Size" เป็น 14

ขั้นตอนที่ 5: เปิดฟีเจอร์ "Equalizer" และตั้งค่าตามนี้

⚡ Mix: 100
⚡ Low Frequency: 0 / Gain Low Frequency: 0
⚡ Mid Frequency: 50 / Gain Mid Frequency: 60
⚡ High Frequency: 75 / Gain High Frequency: 60

ขั้นตอนที่ 6: ปรับแถบควบคุมทางด้านขวาของหน้าจอ โดยตั้งค่า "Mix" และ "Clarity" เป็น 100 และปรับระดับเสียงตามความเหมาะสม

 ปรับแถบควบคุม

การตั้งค่าตามขั้นตอนที่เราแนะนำ จะช่วยให้คุณได้เสียงผู้หญิงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปรับเปลี่ยนค่าเหล่านี้ได้ตามความชอบเพื่อให้ได้เสียงที่ตรงใจมากที่สุด การใช้ Voicemod เสียงผู้หญิงผ่าน VOICELAB จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

พูดถึงข้อดีและข้อเสีย Voicemod เสียงผู้หญิง

หลังจากที่เราได้เรียนรู้วิธีตั้งค่า Voicemod เสียงผู้หญิงแล้ว มาดูข้อดีและข้อเสียของการใช้โปรแกรมนี้กันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้างที่ควรทราบก่อนใช้งานจริง

ข้อดี

  • Voicemod ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนเสียงของคุณเป็นเสียงผู้หญิงหรือเสียงอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • การเปลี่ยนเสียงมีคุณภาพสูงและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
  • มีเอฟเฟกต์เสียงมากกว่า 80 แบบ รวมถึงเสียงผู้หญิง
  • รองรับการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น Discord
  • Voicemod มีตัวเลือกการปรับแต่งเสียงที่หลากหลาย ทำให้คุณสามารถสร้างเสียงที่ตรงตามความต้องการได้

ข้อเสีย

  • เอฟเฟกต์เสียงในเวอร์ชันฟรีมีการสุ่มเลือก และคุณไม่สามารถเลือกเอฟเฟกต์เองได้ นอกจากนี้ เวอร์ชันเต็มมีราคาสูง
  • ฟีเจอร์ VOICELAB สำหรับสร้างเสียงเฉพาะตัวมีให้เฉพาะในเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน
  • การทำงานของโปรแกรมอาจช้า หากใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ
  • ชื่อเอฟเฟกต์เสียงเป็นภาษาอังกฤษ ยังไม่รองรับภาษาไทย
  • บางครั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสอาจบล็อกการอัปเดตของ Voicemod
  • มีผู้ใช้บางรายรายงานว่า Voicemod อาจทำให้เกิดปัญหากับไดรเวอร์เสียง ส่งผลให้ไมโครโฟนหรือหูฟังไม่ทำงาน

การเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิงด้วย MagicMic แทน Voicemod

หากคุณพบปัญหาในการใช้ Voicemod เสียงผู้หญิง MagicMic ซึ่งเป็นโปรแกรมเปลี่ยนเสียงที่พัฒนาโดย iMyFone อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากมีเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิงที่หลากหลาย รองรับการใช้งานทั้งบน Windows และ Mac และมีราคาที่สมเหตุสมผล อีกทั้งยังรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบอีกด้วย

เหตุผลที่แนะนำ MagicMic แทน Voicemod:

  • มีเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิงสำเร็จรูปมากกว่า เช่น เสียงการ์ตูน เซ็กซี่ ฯลฯ
  • เปลี่ยนเป็นเสียงผู้หญิงและเล่นเอฟเฟกต์เสียงมากกว่า 300 แบบและมีเสียงมีมมากกว่า 150 แบบในเวลาเดียวกัน
  • รองรับภาษาไทย
  • ไม่เพียงแต่คุณสามารถแปลงเสียงของคุณได้ทันที แต่คุณยังสามารถบันทึกและบันทึกเป็นเสียงผู้หญิงได้อีกด้วย
  • คุณสามารถใช้เอฟเฟกต์เสียงต่างๆ ได้ฟรีทุกวัน และรับเวอร์ชันเต็มได้ในราคาต่ำ

▼ วิธีใช้ MagicMic แทน Voicemod เสียงผู้หญิง

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดติดตั้ง MagicMic จากเว็บไซต์ iMyFone

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าอุปกรณ์ไมโครโฟนเป็น "อินพุต" และหูฟังเป็น "เอาท์พุต"

เลือกอุปกรณ์เอาท์พุตและอุปกรณ์อินพุต

ขั้นตอนที่ 3: ไปที่รายการ "กล่องเสียง" ทางด้านซ้าย และกดเลือกเอฟเฟกต์เสียงผู้หญิง

ยืนยันเอฟเฟกต์การเปลี่ยนเสียง

ขั้นตอนที่ 4: พูดใส่ไมโครโฟนเพื่อตรวจสอบว่าเสียงเปลี่ยนไปหรือไม่ หากต้องการปรับเสียงให้ไปที่ "เอฟเฟกต์เสียง" และเปลี่ยนระดับ "เบส" และ "ระดับเสียง" ทางด้านขวาได้อย่างอิสระ เป็นอันเสร็จสิ้น

การปรับเอฟเฟกต์การเปลี่ยนเสียง

บทสรุป

ในบทความนี้ เราได้อธิบายถึงวิธีการตั้งค่าโปรแกรม Voicemod เพื่อเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิง รวมถึงรีวิวการใช้งานจริง ซึ่ง Voicemod เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนเสียงได้ง่ายและเป็นที่นิยมในกลุ่มสตรีมเมอร์และนักเล่นเกมมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม Voicemod ยังมีข้อเสียบางประการที่อาจส่งผลต่อการใช้งาน สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาและประสบการณ์การเปลี่ยนเสียงที่ดียิ่งขึ้น ขอแนะนำให้ลองใช้โปรแกรม iMyFone MagicMic ซึ่งเป็นตัวเลือกที่มีฟังก์ชันการเปลี่ยนเสียงที่หลากหลาย ใช้งานง่าย และรองรับการเปลี่ยนเสียงในเวลาจริงโดยไม่มีการหน่วง จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ อย่าลืมลองใช้งานและสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวคุณเอง!