เมื่อการใช้ชีวิตเกิดเหตุไม่คาดคิด โดยเฉพาะเหตุการณ์มือถือ Android หาย แน่นอนว่าส่งผลวิตกกังวลได้อย่างแน่นอน เพราะมือถือเต็มไปด้วยข้อมูลสำคัญ แต่คุณก็ไม่รู้ค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ที่หายไปได้อย่างไร?
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีหาโทรศัพท์หาย Android โดยใช้หมายเลข IMEI พร้อมกับเครื่องมือค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ และติดตามโทรศัพท์หาย Android ได้อย่างแม่นยำ
สิ่งที่ควรรู้! เตรียมพร้อมค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์หาย Android
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์โทรศัพท์ Android หาย การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในโทรศัพท์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ด้วยการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตามหาโทรศัพท์หาย Android ได้ และนี่คือแนวทางที่คุณควรทำเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาตำแหน่งโทรศัพท์ที่หายไป
1 เปิดใช้งานฟีเจอร์ “ค้นหาอุปกรณ์ของฉัน”
การเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เป็นขั้นตอนแรก และถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณตามหาโทรศัพท์หาย Android ได้ โดยปกติ ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google บนโทรศัพท์
แต่โทรศัพท์ Android จะมีการเปิดฟีเจอร์ที่แตกต่างกันทั้งรุ่นและยี่ห้อ ซึ่งเราจะมาอธิบายรายละเอียด ดังนี้
สำหรับโทรศัพท์ Samsung
• ขั้นตอนการเปิดใช้งาน: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ไบโอเมตริกและความปลอดภัย” > กดแตะเปิดใช้งาน “ค้นหาโทรศัพท์ของฉัน”
สำหรับโทรศัพท์ Android อื่น ๆ (Xiaomi, Huawei, Oppo ฯลฯ)
• ขั้นตอนการเปิดใช้งาน: เข้าไปที่ “การตั้งค่า” > “ความปลอดภัยและตำแหน่ง” > กดเปิด “ค้นหาอุปกรณ์ของฉัน”
2 จดบันทึกหมายเลข IMEI ของอุปกรณ์
การจดบันทึกหมายเลข IMEI ของอุปกรณ์ เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือของคุณ เพราะหมายเลข IMEI เป็นหมายเลขประจำตัวอุปกรณ์เคลื่อนที่ และในแต่ละรุ่นตัวเลข IMEI จะไม่ซ้ำกัน ซึ่งนำไปเป็นวิธีตามหาโทรศัพท์หายปิดเครื่องได้ค่อนข้างดี
วิธีที่ 1:ขั้นตอนกดรับข้อความเพื่อรับเลข IMEI
• เปิดฟังก์ชัน “การโทร” และป้อนหมายเลข “*#06#” > กดโทรออก ซึ่งคุณจะเห็นหมายเลข IMEI ในเครื่อง Android ของคุณ
วิธีที่ 2:ขั้นตอนค้นหาเลข IMEI บนอุปกรณ์ Android
• ไปที่ “การตั้งค่า” > “เกี่ยวกับ” > “สถานะ” จากนั้นคุณจะเห็นหมายเลข IMEI และจดบันทึกเก็บไว้
3 วิธีหาโทรศัพท์หาย Android สามารถหาได้ด้วยตัวคุณเอง
หากคุณเผชิญกับสถานการณ์ที่โทรศัพท์ Android ของคุณหายไป ไม่ต้องกังวล! มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ของคุณด้วยตัวเองได้ และนี่คือ 3 วิธีหลักที่จะช่วยให้คุณตามหาโทรศัพท์หาย Android ได้อย่างแน่นอน
1 ใช้ Google ค้นหาอุปกรณ์ของฉัน
การค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์โดยใช้ “ค้นหาอุปกรณ์ของฉัน” จาก Google นับเป็นวิธีหาโทรศัพท์หาย Android ได้ดีเลยทีเดียว เพราะฟีเจอร์นี้จะช่วยระบุตำแหน่งของโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว
คำใบ้:
[ หากคุณกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องการให้ผู้อื่นติดตามทุกการเคลื่อนไหวของคุณ การใช้เครื่องมือเช่น iMyFone AnyTo สามารถช่วยคุณจำลองตำแหน่งของอุปกรณ์ได้ ทำให้คุณสามารถปกปิดตำแหน่งจริงของคุณได้ นอกจากนี้ iMyFone AnyTo ยังช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนตำแหน่งใน Google หรือ Chrome ได้อย่างรวดเร็ว]เมื่อพูดถึง “ค้นหาอุปกรณ์ของฉัน” จาก Google คุณสามารถทำตามขั้นตอน เพื่อหาตำแหน่งโทรศัพท์ได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอป “Find My Device” จาก Google Play Store หรือเข้าถึงผ่านเว็บไซต์โดยตรง
ขั้นตอนที่ 2: ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เมื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google > คุณจะเห็นตัวเลือกค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ต่าง ๆ เช่น เล่นเสียง ล็อคอุปกรณ์ และล้างข้อมูลอุปกรณ์
หากโทรศัพท์หายโดยไม่ได้ตั้งใจ การเลือก “เล่นเสียง” จะทำให้โทรศัพท์ของคุณส่งเสียงดัง ช่วยให้คุณตามหาได้ง่ายขึ้น
ถ้าคุณสงสัยว่ามีคนเก็บโทรศัพท์ของคุณไป การ “ล็อคอุปกรณ์” และแสดงข้อความพร้อมหมายเลขโทรศัพท์บนหน้าจอจะช่วยให้ผู้พบเห็น ติดต่อคืนคุณได้
ในกรณีที่โทรศัพท์ถูกขโมย การ “ล้างข้อมูลทั้งหมด” บนอุปกรณ์จะช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณใช้ “Find My Device” แล้วไม่พบตำแหน่งอุปกรณ์ อาจเป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต คุณควรรอจนกว่าโทรศัพท์จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่เสถียร และตำแหน่งล่าสุดของโทรศัพท์จะปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เฟซของ “Find My Device”
2 โทรออกหรือส่งข้อความไปยังโทรศัพท์ Android ที่สูญหาย
การโทรออกหรือส่งข้อความไปยังโทรศัพท์นั้น เป็นวิธีที่ติดตามโทรศัพท์หาย Android ได้ง่ายและรวดเร็ว วิธีนี้อาจช่วยให้คุณพบโทรศัพท์ได้หากมันอยู่ใกล้ ๆ หรือหากมีคนพบเจอ ก็สามารถนำมาคืนให้คุณได้ง่ายเช่นกัน
ดังนั้น ใช้โทรศัพท์ของเพื่อนหรือญาติใกล้ชิดเพื่อทำการโทรหรือส่งข้อความ ซึ่งคุณอาจหวังเพียงว่าผู้ที่พบโทรศัพท์จะมีจิตใจดีพอที่จะส่งโทรศัพท์คืนให้คุณ หลังจากเห็นข้อมูลติดต่อของคุณ รวมไปถึงโทรศัพท์อยู่ในระยะใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้ยินเสียงเรียกเข้า จะตามหาโทรศัพท์หายได้นั่นเอง
3 การใช้ “Life 360”
การค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์โดยใช้แอปฯ “Life 360” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน เพราะแอปฯ ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ สามารถติดตามตำแหน่งของกันและกันได้แบบ Real-Time
นอกจากนี้ คุณสามารถเห็นตำแหน่งล่าสุดของโทรศัพท์ที่หายไป หากโทรศัพท์ของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและมีแอป Life360 ติดตั้งอยู่
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้ง “Life 360” จาก Google Play Store > เปิดแอปฯ และผูกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: แบ่งปันรหัสเชิญเพื่อนของคุณให้กับเพื่อนและครอบครัว เมื่ออีกฝ่ายป้อนรหัสเชิญที่คุณให้ คุณและอีกฝ่ายจะเห็นตำแหน่งโทรศัพท์ซึ่งกันและกัน
ขั้นตอนที่ 3: ในกรณีที่โทรศัพท์หาย คุณสามารถใช้โทรศัพท์ของสมาชิกในครอบครัวเพื่อค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ Android ของคุณได้
ควรทำอย่างไร? หากโทรศัพท์ Android หายไป
เมื่อโทรศัพท์มือถือของคุณหายไป ควรให้ความสำคัญกับข้อมูลอย่างรหัสผ่านและบันทึกส่วนตัว ซึ่งควรดำเนินขั้นตอนแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและป้องกันการใช้งานโทรศัพท์ของคุณในทางที่ผิด และนี่คือขั้นตอนที่คุณควรทำทันทีหากโทรศัพท์ของคุณหาย
- ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณ: แจ้งให้ปิดการใช้งานซิมการ์ดทันที เพื่อป้องกันการใช้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณ และป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือการฉ้อโกง
- รายงานต่อสถานีตำรวจ: นำหมายเลข IMEI ของโทรศัพท์ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ พร้อมทั้งข้อมูลอื่น ๆ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ รุ่น และยี่ห้อ เพื่อทำการบันทึกเหตุการณ์
- ใช้ฟังก์ชัน “ค้นหาอุปกรณ์ของฉัน”: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถล็อคโทรศัพท์ของคุณจากระยะไกล เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์หากยังเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
การแก้ไขปัญหาเช่นนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียข้อมูลสำคัญและป้องกันการใช้โทรศัพท์ของคุณในทางที่ผิด อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีในการเรียกคืนโทรศัพท์หากมีโอกาสพบเจอในภายหลัง
บทสรุป
ในบทความนี้เราได้แนะนำ 3 วิธีที่จะช่วยให้คุณติดตามโทรศัพท์หาย Android ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยคุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่แนะนำในบทความนี้เพื่อช่วยให้คุณค้นหาโทรศัพท์ของคุณได้
นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้คุณใช้ iMyFone AnyTo เพื่อช่วยในการจำลองตำแหน่ง GPS ของโทรศัพท์ ซึ่งอาจเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการหลอกล่อผู้ที่อาจพบโทรศัพท์ของคุณ อย่างไรก็ตาม ควรดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือของคุณอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการทิ้งไว้ในสถานที่ที่อาจเกิดความเสี่ยง เราหวังว่าคำแนะนำจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต!