【แนะนำ】สอนดูประวัติตำแหน่ง iPhone ด้วยตนเอง ไม่ยุ่งยาก!

ในปัจจุบันระบบสมาร์ทโฟนได้เพิ่มฟังก์ชันมากมาย แม้กระทั่ง iPhone ก็เช่น โดยมีการบันทึกหรือดูประวัติตำแหน่ง iPhone ได้ภายในเครื่อง ช่วยให้คุณตรวจสอบตำแหน่งที่ต้องของมือถือได้ง่าย ๆ เพื่อใช้สำหรับการนำเส้นทาง ค้นหาตำแหน่ง หรือหากอุปกรณ์หายหรือลืม ก็สามารถค้นหาได้ง่าย ๆ เป็นต้น

แต่เราพบว่าผู้ใช้ iPhone บางราย ดูประวัติตำแหน่ง iPhone ไม่ได้ หรือตั้งแต่มีการอัปเดต iOS 15 ก็ใช้ฟังก์ชัน ดูประวัติตำแหน่ง iPhone iOS 15 ไม่เป็น ดังนั้นบทความนี้จะมาสอนให้คุณดูประวัติตำแหน่ง iPhone ด้วยตนเอง สามารถทำตามขั้นตอนได้ง่าย ๆ และรวมวิธีแก้ไขมาให้คุณทราบอีกด้วย

วิธีดูประวัติตำแหน่ง iPhone

สำหรับใครที่ต้องการดูประวัติตำแหน่ง iPhone จำเป็นต้องอัปเดต iOS 15 เสียก่อน เพราะระบบบันทึกตำแหน่งภายในตัวของ iPhone จะมีมาตั้งแต่ iOS 15 ซึ่งเราจะมาแนะนำการดูประวัติตำแหน่ง iPhone iOS 15 และใครที่ใช้อุปกรณ์ไม่รองรับ iOS 15 เราก็มีแนะนำแอปฯสำหรับมือถือเช่นกัน สามารถติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย

1 ดูบันทึกประวัติการติดตาม iPhone ผ่านฟังก์ชันภายในตัว (iOS 15 เท่านั้น)

บันทึกการติดตามของ iPhone สามารถบันทึกเส้นทางการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ และมอบฟังก์ชันการค้นหาและการจัดการที่สะดวกสบายให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลโดยละเอียดได้โดยตรง เช่น เส้นทางการเคลื่อนไหว ตำแหน่ง และเวลาอยู่อาศัยภายในระยะเวลาที่กำหนดบนแผนที่ แน่นอนว่า คุณยังสามารถดูประวัติตำแหน่ง iPhoneในฟังก์ชันในตัวเพื่อการจัดการและการใช้งานที่ง่ายดาย

• ไปที่ “การตั้งค่า” > “ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย” > “บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง”



• เลื่อนลงมา แล้วกดแตะ “บริการระบบ” > กดเปิด “ตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ”



• ทำการป้อนรหัส หรือยืนยันด้วย Face ID จากนั้นคุณจะเห็นประวัติการบันทึกตำแหน่ง iPhone ล่าสุด

2 ผ่านแอปฯบันทึกตำแหน่งของ iPhone

หากคุณเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ Apple ที่มี iOS 14 หรือต่ำกว่า จะไม่สามารถดูประวัติตำแหน่ง iPhone ได้ และเป็นปัญหาดูประวัติตำแหน่ง iPhone ไม่ได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้แอปฯ Google Maps เพื่อดูประวัติตำแหน่ง iPhone ได้เช่นกัน

Google Maps

Google Maps ไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้วางแผนการเดินทางเท่านั้น แต่ยังสามารถแสดงการเดินทางย้อนหลัง เพื่อให้คุณสามารถนำเส้นทางไปบอกต่อกับคนอื่น ๆ หรือจะใช้ในวางแผนและเปรียบเทียบ เส้นทางในอนาคตได้เช่นกัน โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

• ลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google > ในหน้าแรกให้กดโปรไฟล์ที่มุมขวาบน > เลือก “ไทม์ไลน์ของคุณ”



• จากนั้นกลับไปที่ “การตั้งค่า” ใน iPhone > ค้นหาตัวเลือก “Google Maps” > กดแตะ “ตำแหน่งที่ตั้ง” > เปลี่ยนเป็น “ตลอดเวลา”



• กลับไปที่แอปฯ Google Maps อีกครั้ง > กดโปรไฟล์ที่มุมขวาบน > เลือก “ไทม์ไลน์ของคุณ” > กดที่ “วันที่” หรือ “ปฏิทิน”



• ข้อมูลการบันทึกตำแหน่ง iPhone ของคุณจะปรากฏขึ้น

ต้องการหลีกเลี่ยงการดูประวัติตำแหน่ง iPhone ทำอย่างไร?

แม้ว่าฟังก์ชันบันทึกประวัติตำแหน่ง หรือการดูประวัติตำแหน่ง iPhone ย้อนหลัง จะส่งผลดีในเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกก็ตาม แต่ก็อาจจำมาสู่ปัญหาของเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ เพราะบางคนอาจโดนละเมิดสิทธิ์ส่วนตัว ทำให้ผู้อื่นทราบถึงตำแหน่ง และติดตามตำแหน่งของคุณได้ง่าย ๆ เป็นต้น

ดังนั้นเราจะมาแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงจากการโดนติดตามตำแหน่งได้นั้นก็คือ iMyFone AnyTo ซึ่งเป็นเครื่องมือแก้ไขตำแหน่งที่ตั้งได้อย่างมืออาชีพ ทำให้ผู้อื่นไม่สามารถค้นหาตำแหน่งที่แท้จริงของคุณได้

แนะนำฟังก์ชันหลักของ iMyFone AnyTo

• ปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งได้ทั่วทุกมุมโลก และสามารถเปลี่ยนตำแหน่งแอปต่าง ๆ เช่น LINE, Snapchat และ IG ฯ
• สามารถนำไปใช้เล่นเกมที่จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่ตั้ง เช่น Pokemon Go, Monster Hunter Now ฯลฯ เป็นต้น ทำให้คุณจับโปเกมอนหรือ Monsters ได้ทั่วทุกมุมโลก
• ใช้งานง่าย เพียงไม่กี่คลิก ตำแหน่งที่ตั้งของคุณก็จะย้ายไปในตำแหน่งที่ต้องการทันที
• รองรับการแก้ไขตำแหน่งที่ตั้งได้ทั้ง iPhone และ Android

วิธีแก้ไขการโดนติดตามตำแหน่งที่ตั้ง โดยใช้ iMyFone AnyTo

ขั้นตอนที่ 1: โหลดและติดตั้งเครื่องมือ AnyTo ลงบนระบบคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนที่ 2: นำมือถือมาเชื่อมต่อเข้ากับคอมฯ และกดคลิก “เริ่ม” > คุณจะพบเห็นตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันในเครื่องมือ AnyTo

ขั้นตอนที่ 3: กดคลิก “โหมดย้าย” ที่มุมขวาบน และป้อนตำแหน่งที่ต้องการเปลี่ยนตำแหน่ง

ขั้นตอนที่ 4: กดคลิก “ย้าย” ตำแหน่งจะเปลี่ยนไปตามที่คุณตั้งค่าทันที เป็นอันเสร็จสิ้น ป้องกันการโดนติดตามหรือดูประวัติตำแหน่ง iPhone ย้อนหลังได้แล้ว

บทสรุป

เนื้อหาภายในบทความนี้ สอนให้คุณดูประวัติตำแหน่ง iPhone iOS 15 ขึ้นไป และสามารถดูประวัติตำแหน่งผ่านแอปฯ Google Maps ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว และต้องการเลี่ยงไม่ให้โดนติดตามตำแหน่งที่ตั้ง เราขอแนะนำ “iMyFone AnyTo ” เพราะไม่กี่คลิก คุณจะย้ายตำแหน่งได้ตามที่ต้องการ และจะส่งผลต่อระบบของแอปพลิเคชันในมือถือ ยกตัวอย่าง คุณสามารถเล่น Pokemon Go และย้ายตำแหน่งเพื่อไปจับโปเกมอนหายากได้ตามที่ต้องการ โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางจริง ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างมาก