เครื่องมือที่ต้องมีสำหรับไอโฟนค้าง
การคลิกเพียงไม่กี่ครั้งใน 5 นาทีสามารถแก้ไขปัญหาไอโฟนค้างปิดเครื่องไม่ได้ที่เกิดจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ iOS
เมื่อใช้งาน iPhone/iPad อยู่ดี ๆ เกิดปัญหาไอโฟนค้างและไม่สามารถกดอะไรได้เลย ทำให้หลาย ๆ คนตกใจว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไรดี แต่หากคุณมาถึงบทความนี้แล้ว ไม่ต้องตกใจไป
วันนี้เราจะมาแนะนำ 7 วิธีแก้ไขไอโฟนค้างกดอะไรไม่ได้เลยในรุ่น X/11/12/13/14/15/16 โดยที่บางอาการนั้นเราสามารถแก้เองได้โดยไม่ต้องง้อช่างเลยทีเดียว จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย
สารบัญ [ขยาย]
ส่วนที่ 1: สาเหตุที่ไอโฟนค้าง
สาเหตุที่ไอโฟน 16 ค้าง และรุ่นอื่น ๆ มีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากข้อผิดพลาดของระบบ iOS และความไม่เข้ากันระหว่างแอปฯและ iOS ซึ่งส่งผลให้แตะที่จอแล้วเครื่องไม่ตอบสนอง หรืออยู่ ๆ ก็ใช้งานฟีเจอร์บางอย่างไม่ได้ แอปบางแอปมีปัญหา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์หรือระบบภายใน ดังนี้
สาเหตุที่ไอโฟนค้างตามต่อไปนี้:
- ซอฟต์แวร์ไม่สมบูรณ์: บางครั้งการอัปเดต iOS 18 หรืออัปเดตแอปพลิเคชัน อาจเป็นสาเหตุทำให้ระบบไม่สมบูรณ์ และทำให้ไอโฟนค้างได้
- แอปพลิเคชันทำงานไม่ถูกต้อง: มีความเป็นไปได้ที่บางแอปฯมีข้อผิดพลาดระหว่างใช้งาน ส่งผลให้ iPhone ค้าง ได้เช่นกัน
- ความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์: จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ เช่น iPhone ตกหล่นลงในน้ำ อาจจะทำให้ฮาร์ดแวร์ภายในเกิดความเสียหาย ส่งผลให้หน้าจอไอโฟนค้างสัมผัสไม่ได้
- ชาร์จแบตเตอรี่แล้วไม่ตอบสนอง: หากคุณใช้สายชาร์จที่ไม่มีมาตรฐาน หรือไม่มีความเสถียรในการจ่ายไฟ จะทำให้เมนบอร์ดภายในแบตเตอรี่รั่วไหล และไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งนำไปสู่ถึงปัญหาไอโฟนค้างกดอะไรไม่ได้เลยนั่นเอง
ส่วนที่ 2: วิธีแก้ไขยังมีการตอบสนองหลังจากไอโฟนค้าง
ในวันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้ไอโฟนค้างให้คุณทราบ ซึ่งจะเป็นวิธีสำหรับ iPhone ค้าง แต่ยังคงมีการตอบสนองอยู่ และยังคงสัมผัสหน้าจอได้ตามปกติ จะมีวิธีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1 ปิดแอปที่ทำให้หน้าจอค้าง
หากคุณพบว่า iPhone ค้าง หรือไม่ตอบสนองเฉพาะแอปฯนั้น ๆ เป็นไปได้ว่าแอปฯไม่รองรับหรือไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone ได้
วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือ เรียกใช้งานโหมด Multi-Task หรือเรียกใช้เบื้องหลังของแอปฯ ก็คือปัดหน้าจอจากล่างขึ้นบน จากนั้นเลื่อนแอปฯที่ทำให้หน้าจอไอโฟนค้าง เพื่อทำการปิดแอปฯ จากนั้นก็รีสตาร์ท iPhone
2 ล้างพื้นที่เก็บข้อมูล iPhone
บางครั้งที่ไอโฟน X/11/12/13/14/15/16 ค้าง อาจเกิดจากพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่เพียงพอ ทำให้เครื่องมีการประมวลผลที่ล่าช้า ซึ่งส่งผลให้เครื่องยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อลบเนื้อหาที่ไม่จำเป็น จึงเป็นเหตุที่ทำให้ไอโฟนค้างได้อีกด้วย
ดังนั้นคุณควรจัดการพื้นที่เก็บข้อมูล iPhone หรือล้างข้อมูลให้เพียงพอต่อการใช้งาน และที่สำคัญควรสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” ใน iPhone > แตะ “ทั่วไป”
ขั้นตอนที่ 2: กดแตะหัวข้อ “ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต” > เลือก “ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด”
ขั้นตอนที่ 3: ป้อนรหัสผ่านไอโฟนของคุณ เพื่อยืนยันการล้างพื้นที่เก็บข้อมูลทั้งหมดใน iPhone จากนั้นใช้เวลาดำเนินการพอสมควร เพื่อแก้ปัญหาไอโฟนค้างได้ในที่สุด
3 อัปเดตระบบ iOS
ในบางครั้งการที่คุณไม่ได้อัปเดต iOS จะทำให้ระบบ iOS มีความล้าสมัย อาจทำให้ไม่รองรับการใช้งานแอปฯ และทำให้เครื่องทำงานช้าลง ซึ่งหากคุณใช้ iPhone X/11/12/13/14/15/16 ควรอัปเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” บนหน้าจอหลักของ iPhone > กดแตะ “ทั่วไป” > กด “รายการอัปเดตซอฟต์แวร์”
ขั้นตอนที่ 2: ระบบจะตรวจหาเวอร์ชัน iOS ล่าสุดให้อัตโนมัติ หากมีระบบปฏิบัติการ iOS ใหม่ ระบบจะขึ้นให้คุณกด “ดาวน์โหลดและติดตั้ง”
4 รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด
หากหน้าจอไอโฟนค้าง อาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้อง ขอแนะนำให้คุณล้างหรือรีเซ็ตการตั้งค่า iPhone ให้เป็นค่าเดิมจากโรงงาน เพื่อแก้ปัญหาไอโฟนหน้าจอค้าง
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” บน iPhone > กดหัวข้อ “ทั่วไป” > เลื่อนลงมาและกด “ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต”
ขั้นตอนที่ 2: กดแตะ “รีเซ็ต” > เลือกหัวข้อ “รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด”
ขั้นตอนที่ 3: ยืนยัน “รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด” จากนั้นเครื่องจะรีสตาร์ทอัตโนมัติ และแก้ไอโฟนค้างได้ทันที
ส่วนที่ 3: วิธีแก้ปัญหาหน้าจอไอโฟนไม่ตอบสนอง
ในส่วนนี้ จะเป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับหน้าจอไอโฟนค้างสัมผัสไม่ได้หรือไอโฟนค้างกดอะไรไม่ได้เลย รวมถึงไอโฟนหน้าจอค้างปิดเครื่องไม่ได้จึงต้องบังคับให้ไอโฟนรีสตาร์ท หรือใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหา จะมีวิธีอะไรกันบ้างนั้น มาดูพร้อม ๆ กันเลย
1 บังคับให้รีสตาร์ท iPhone
การบังคับให้ iPhone รีสตาร์ทจะแตกต่างกันไปตามรุ่นของ iPhone นั้น ๆ โดยแต่ละรุ่นจะมีปุ่มกดให้รีสตาร์ท ดังต่อไปนี้
สำหรับ iPhone 8/SE(Gen2) และ iPhone X ไปจนถึง iPhone 16
- กดและปล่อยปุ่มเพิ่มระดับเสียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นกดและปล่อยปุ่มลดระดับเสียงอย่างรวดเร็ว
- กดปุ่มด้านข้างค้างเอาไว้จนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏขึ้นมา แล้วค่อยปล่อยปุ่มทั้งหมด
สำหรับ iPhone 7/7 Plus
- กดปุ่มลดระดับเสียงและปุ่มด้านข้างพร้อมกัน และกดค้างไว้จนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏ จากนั้นปล่อยปุ่มกดทั้งสองพร้อมกัน
สำหรับ iPhone 6S/SE
- กดปุ่มด้านข้างและปุ่มโฮมค้างไว้พร้อมกัน หากโลโก้ Apple ปรากฏขึ้นแล้ว ให้ปล่อยปุ่มกดทั้งสอง
2 ซ่อมแซมระบบ iOS
หากไอโฟนค้างจนไม่ตอบสนอง หรือแม้ว่าจะตอบสนอง แต่หน้าจอไอโฟนค้างสัมผัสไม่ได้ คุณควรใช้เครื่องมือ iMyFone Fixppo เพื่อซ่อมแซมระบบ iOS และแก้ปัญหาค้างต่าง ๆ ได้ทั้งหมดในเครื่องมือเดียว ไม่จำเป็นต้องทดลองแก้ไขทุกวิธีที่เรานำเสนอมา ช่วยให้คุณแก้ไขไอโฟนค้างด้วยตนเอง ไม่ต้องง้อช่างเลยทีเดียว
แนะนำฟังก์ชันหลักของ iMyFone Fixppo
- ซ่อมแซมระบบ iOS โดยซ่อมปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ iOS ที่ส่งผลให้ iPhone ค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากที่สุด
- ในกรณีที่ไอโฟนเครื่องร้อน,ไอโฟนหน้าจอดับแต่เครื่องติด,ไอโฟนไม่ตอบสนอง,ไอโฟนเปิดไม่ติดจอดําและไอโฟนค้างกดอะไรไม่ได้เลย หากใช้เครื่องมือจะจัดการแก้ไขได้โดยตรง ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
- แก้ไขหน้าจอไอโฟนค้างปิดเครื่องไม่ได้อย่างง่ายดาย เพียงคลิกเดียว ปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขในทันที และข้อมูลจะไม่สูญหาย
- รองรับทุกรุ่นอุปกรณ์ของ Apple และรองรับระบบปฏิบัติการ iOS ทุกเวอร์ชัน
ขั้นตอนที่ 1: โหลดและติดตั้งเครื่องมือ “iMyFone Fixppo” ลงบนคอมพิวเตอร์ และเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB
ขั้นตอนที่ 2: เลือกโหมด “มาตรฐาน” หรือ “Standard Mode” จากนั้นเครื่องมือจะทำการดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ลงมือถือให้อัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 3: หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้น ให้กดคลิก “เริ่ม” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนดำเนินการแก้ไขหน้าจอไอโฟนค้าง
ขั้นตอนที่ 4: จากนั้นรอให้เครื่องมือ “Fixppo” ซ่อมแซมระบบ iOS ให้อัตโนมัติ และคุณจะพบเห็นว่า iPhone ของคุณได้รับการแก้ปัญหา ใช้งานได้ตามปกติแล้ว
3 รีเฟรช iPhone ผ่านโหมด DFU
สำหรับวิธีนี้จะเป็นวิธีสุดท้าย หากวิธีข้างต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาเครื่องไอโฟนค้างได้ คุณจำเป็นต้องรีเฟรช iPhone ผ่านโหมด DFU เพื่อทำการกู้คืนให้ไอโฟนเป็นปกติ
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง iTunes หรืออัปเดต iTunes บนคอมพิวเตอร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด และนำ iPhone มาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB
ขั้นตอนที่ 2: ให้ iPhone เข้าสู่โหมด DFU โดยแต่ละรุ่นของ iPhone จะมีวิธีการเข้าสู่โหมด DFU ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ตั้งแต่ iPhone 8 ขึ้นไป จนถึง iPhone 16: กดปุ่มเพิ่มระดับเสียง จากนั้นกดปุ่มลดระดับเสียง และกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ประมาณ 10 วินาที รอให้ iPhone ปิดเครื่องหน้าจอเป็นสีดำ จากนั้นกดปุ่มลดเสียงค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วปล่อยกดด้านข้าง หลังจากนั้นกดปุ่มลดเสียงค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที จนกว่าหน้าจอจะมืดเป็นสีดำสนิท
- iPhone 7/7 Plus: กดปุ่มด้านข้างละปุ่มลดระดับเสียงพร้อมกันค้างไว้ประมาณ 8-10 วินาที ปล่อยปุ่มด้านข้าง และกดปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วรอให้หน้าจอ iPhone เป็นสีดำสนิท
- iPhone 6/6 Plus หรือรุ่นที่เก่ากว่า: กดปุ่มด้านข้างและกดปุ่มโอมพร้อมกันค้างไว้เป็นเวลา 8-10 วินาที จากนั้นปล่อยปุ่มด้านข้าง แต่ยังคงกดปุ่มโฮมค้างไว้ต่อประมาณ 5 วินาที และหน้าจอไอโฟนจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
ขั้นตอนที่ 3: ให้กลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จะเห็นว่า iTunes แจ้งให้คุณทราบว่า iPhone อยู่ในโหมดการกู้คืนแล้ว ให้คุณกด “ตกลง”
ขั้นตอนที่ 4: iTunes จะเริ่มดำเนินการกู้คืนการทำงาน iPhone เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น โปรดบังคับให้อุปกรณ์รีสตาร์ทเครื่อง จากนั้นตรวจสอบดูว่า iPhone ได้รับการแก้ไขหรือไม่?
ส่วนที่ 4: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไอโฟนค้าง
1ทำไม iPhone 11/13 หน้าจอค้าง แม้ว่าจะกดปุ่มเปิด-ปิดแล้วก็ตาม
การที่คุณใช้ไอโฟน 11 ค้าง และไอโฟน 11 ค้างปิดเครื่องไม่ได้ หรือผู้ที่ใช้ไอโฟน 13 ค้างและไอโฟน 13 ค้างปิดเครื่องไม่ได้ ส่งผลทำให้หน้าจอไอโฟนค้างสัมผัสไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นปัญหามาจากซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ คุณควรติดต่อ Apple Support Centre เพื่อปรึกษาปัญหาและรับแนวทางในการแก้ไขอย่างเป็นทางการ แต่โปรดรู้ไว้ว่า หากติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple จะใช้เวลาในการแก้ไขนานพอสมควร
2ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ควรทำอย่างไร?
แม้ว่าคุณจะใช้เครื่องมือ “iMyFone Fixppo” แล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง คุณอาจจะต้องพบช่างซ่อมมือถือที่มีความน่าเชื่อถือ หรือติดต่อศูนย์บริการ Apple เพื่อตรวจสอบปัญหาไอโฟนค้างที่แท้จริง อย่างไรก็ตามการใช้บริการนอกเหนือเครื่องมือ “iMyFone Fixppo” มีราคาค่อนข้างสูงกว่าการใช้เครื่องมืออย่างมาก
บทสรุป
สำหรับ 7 วิธีที่เราแนะนำมานั้น คงช่วยให้หลาย ๆ คนที่ใช้ไอโฟน X ค้างปิดเครื่องไม่ได้ หรือรุ่นอื่น ๆ สามารถแก้ปัญหาไอโฟนค้างได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีขั้นตอนการแก้ไขที่แสนจะง่ายดาย และยิ่งได้ใช้เครื่องมือ “iMyFone Fixppo” เชื่อเลยว่าคุณจะชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะเพียงคลิกเดียว ก็ทำให้คุณแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไปหาช่างซ่อมมือถือ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย อย่ารอช้ารีบดาวน์โหลดไปใช้งานด้วยตนเองได้แล้ววันนี้!