แก้ไขส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้

แก้ไขปัญหาที่ส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากระบบ iOS ขัดข้อง ใช้ได้กับทุกรุ่น เช่น iPhone 14/13/12/11 ไม่มีข้อมูลสูญหายในกระบวนการ

ทดลองใช้ฟรี

อุปกรณ์ของ Apple สามารถส่งไฟล์หรือส่งรูปผ่าน AirDrop ได้ง่าย ๆ และรวดเร็ว รวมถึงไม่โดนลดทอนเกี่ยวความละเอียดของรูปภาพด้วย ทำให้ภาพยังคงคมชัดเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะส่งรูปผ่าน AirDrop ได้อย่างราบรื่น เพราะพบว่าผู้ใช้บางรายประสบปัญหาส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้ หรือบางรายก็รับ AirDrop ไม่ได้

ดังนั้นบทความนี้จะมาพูดถึงวิธีส่งรูปผ่าน AirDrop ที่ถูกต้อง และหากส่งไม่สำเร็จ ภายในบทความนี้ก็ได้มีคำแนะนำในการแก้ปัญหา โดยที่คุณสามารถทำตามขั้นตอนแต่ละวิธีต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะมีเนื้อหาน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

ส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้

ส่วนที่ 1: วิธีส่งรูปผ่าน AirDrop

ก่อนที่คุณจะไปดูวิธีแก้ไขปัญหาส่ง AirDrop ไม่สำเร็จ มาดูวิธีส่งรูปผ่าน AirDrop ที่ถูกต้องกันก่อนดีกว่า เพื่อให้คุณใช้ AirDrop แชร์ ส่ง และรับรูปภาพกับอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้เคียงได้สำเร็จ

สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนเริ่มส่งรูปผ่าน AirDrop

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ‘ผู้รับ’ อยู่ใกล้เคียงและอยู่ในระยะสัญญาณ Bluetooth และ Wi-Fi
  • ตรวจสอบทั้ง ‘ผู้รับ’ และ ‘ผู้ส่ง’ ว่ามีการเปิดฮอตสปอตส่วนบุคคลหรือไม่? หากเปิดให้ทำการปิดใช้งาน
  • ตรวจสอบว่าผู้รับได้เปิด AirDrop “เฉพาะรายชื่อ” หรือไม่? และต้องให้ผู้รับมั่นใจว่า ได้นำข้อมูลของคุณ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ลงในรายชื่อแล้ว จึงจะใช้ AirDrop ได้
  • หากคุณไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ควรแจ้งให้ผู้รับ เปิด AirDrop แบบ “ทุกคน” เพื่อให้สามารถส่งรูปผ่าน AirDrop ได้สำเร็จ

วิธีใช้ AirDrop อย่างถูกวิธี

  • เปิด “รูปภาพ” บนอุปกรณ์ iOS ของคุณ และเลือกรูปภาพตามที่ต้องการ แล้วกดแตะไอคอนปุ่ม “แชร์” แตะเลือก “AirDrop”
  • วิธีใช้ AirDrop อย่างถูกวิธี

  • เลือกผู้ใช้ AirDrop ที่คุณต้องการส่งรูป
  • ฝั่งผู้รับ จะเห็นข้อความให้กด “ยอมรับ” รูปภาพ
  • จากนั้นรูปภาพที่ถูกส่งด้วย AirDrop จะถูกนำไปอยู่ใน “รูปภาพ” เป็นอันเสร็จสิ้น

วิธีใช้ AirDrop อย่างถูกวิธี

ส่วนที่ 2: รายการอุปกรณ์ที่รองรับ AirDrop

ในกรณีที่ไม่สามารถมองเห็นรายชื่อผู้รับ AirDrop จำเป็นต้องตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ว่า รองรับ AirDrop หรือไม่? เพราะหากอุปกรณ์ฝั่งใด ไม่สามารถใช้งาน AirDrop ได้ ก็จะส่งผลทำให้ AirDrop ไม่พบผู้คนนั่นเอง

นี่คือรุ่นอุปกรณ์ iOS ที่รองรับ AirDrop มีดังนี้

สำหรับ MacBook ที่รองรับ AirDrop

ส่วนที่ 3: แก้ไข iPad/iPhone ส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้

เมื่อ AirDrop ไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้ หรือรับ AirDrop ไม่ได้ อาจจะเกิดความล้มเหลวของอุปกรณ์ หรือสัญญาณเครือข่าย ดังนั้นนี้คือ 8 วิธีที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1 รีสตาร์ท Wi-Fi และ Bluetooth

เมื่อคุณส่งรูปผ่าน Airdrop ขึ้น Waiting อาจเกิดปัญหาจากระบบ Wi-Fi หรือ Bluetooth ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ AirDrop ได้ ดังนั้นคุณสามารถรีสตาร์ท Wi-Fi และ Bluetooth ได้ดังนี้

ขั้นตอนแก้ไข: ปัดหน้าจออุปกรณ์ iOS จากมุมขวาบนลงด้านล่าง และกดแตะไอคอน Wi-Fi และ Bluetooth เพื่อปิดการใช้งาน จากนั้นรอประมาณ 3-5 นาที ให้กดแตะอีกครั้ง เพื่อเปิดการทำงานใหม่

รีสตาร์ท Wi-Fi และ Bluetooth

2 ตรวจสอบการตั้งค่า AirDrop

ในกรณีที่ใช้ AirDrop ไม่พบผู้คน อาจเกิดจากการตั้งค่าที่ผิดปกติหรือไม่ถูกต้อง โดยคุณสามารถเข้าไปดูการตั้งค่าว่าได้เปิด AirDrop ไว้สำหรับ “รายชื่อเท่านั้น” หรือไม่

เพราะโดยปกติแล้ว AirDrop จะมี 3 ตัวเลือกด้วยกัน คือ ปิดการรับ, รายชื่อเท่านั้น และทุกคนเป็นเวลา 10 นาที ซึ่งถ้าคุณเปิด “รายชื่อเท่านั้น” และผู้รับไม่ได้อยู่ในรายชื่อของคุณ ทำให้เกิดปัญหา AirDrop ไม่พบผู้คนนั่นเอง

ดังนั้นหากคุณไม่พบผู้คน สามารถสลับไปใช้ “ทุกคนเป็นเวลา 10 นาที” แล้วส่งรูปผ่าน AirDrop ใหม่อีกครั้ง

ขั้นตอนแก้ไข: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “AirDrop” > “ทุกคนเป็นเวลา 10 นาที”

ตรวจสอบการตั้งค่า AirDrop

3 ทำให้อุปกรณ์ตื่นตัวและปลดล็อกอยู่เสมอ

หากไม่พบ AirDrop ของผู้อื่น อาจเป็นไปได้ว่าคุณไม่ได้ปลดล็อกคอุปกรณ์ iOS ทำให้มองไม่เห็นกล่องข้อความ “กดยอมรับ” AirDrop

คุณควรตรวจสอบว่าได้เปิดโหมด “ห้ามรบกวน” บนอุปกรณ์ iOS หรือไม่ เพราะถ้าเปิด จะทำให้ไม่สามารถใช้งาน AirDrop ได้

ขั้นตอนแก้ไข: ไปที่ “การตั้งค่า” > “โฟกัส” > “ห้ามรบกวน” > หากเปิดใช้งานอยู่ ให้กดแตะเพื่อปิด

วิธีใช้ AirDrop อย่างถูกวิธี

4 ปิดฮอตสปอตส่วนบุคคล

สาเหตุที่รับ AirDrop ไม่ได้ และ AirDrop ไม่พบผู้คน อาจเกิดจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งเปิด “ฮอตสปอตส่วนบุคคล” เอาไว้ ซึ่งจะทำให้ใช้ Airdrop ไม่ได้

ขั้นตอนแก้ไข: ปัดหน้าจออุปกรณ์ iOS จากมุมขวาบนลงล่าง > กดแตะ Bluetooth ค้างไว้ > ปิดการใช้งานฮอตสปอตส่วนบุคคล

ฮอตสปอตส่วนบุคคลไม่ขึ้น

5 บังคับรีสตาร์ทอุปกรณ์ iOS

การบังคับรีสตาร์ทอุปกรณ์ iOS ถือเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ดี ซึ่งในแต่ละรุ่นของอุปกรณ์ iOS จะมีวิธีการกดรีสตาร์ทที่แตกต่างกัน ดังนี้

สำหรับ iPhone 8 หรือใหม่กว่า รวมถึง iPhone SE รุ่นที่ 2

  • กดปุ่ม “เพิ่มระดับเสียง” หนึ่งครั้ง และกดปุ่ม “ลดระดับเสียง” หนึ่งครั้ง
  • จากนั้นกดปุ่ม “เปิด/ปิด” ด้านข้างค้างไว้ จนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏ

บังคับให้รีสตาร์ทเพื่อแก้ไขหน้าจอสีดำของ iPhone 11

สำหรับ iPhone 7

  • กดปุ่ม “ลดระดับเสียง” และกดปุ่ม “เปิด/ปิด” ค้างไว้พร้อมกัน
  • ปล่อยปุ่มกดเมื่อโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

บังคับให้รีบูตเพื่อแก้ไขหน้าจอ iPhone 7 สีดำทันทีำ

สำหรับ iPhone 6s, iPhone SE รุ่นที่ 1

  • กดปุ่ม “โฮม” และกดปุ่ม “เปิด/ปิด” ค้างไว้พร้อมกัน
  • ปล่อยปุ่มกดเมื่อโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

บังคับให้รีสตาร์ท iPhone 6S ด้วยหน้าจอสีดำ

สำหรับ iPad รุ่นที่ “ไม่มี” ปุ่มโฮม

  • กดปุ่ม “เพิ่มระดับเสียง” หนึ่งครั้ง และกดปุ่ม “ลดระดับเสียง” หนึ่งครั้ง
  • จากนั้นกดปุ่ม “เปิด/ปิด” ด้านข้างค้างไว้ ปล่อยปุ่มเมื่อโลโก้ Apple ปรากฏ

สำหรับ iPad รุ่นที่ “มี” ปุ่มโฮม

  • กดปุ่ม “โฮม” และกดปุ่ม “เปิด/ปิด” ด้านบนค้างไว้พร้อมกัน
  • ปล่อยปุ่มกดเมื่อโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

บังคับให้รีสตาร์ท iPhone 6S ด้วยหน้าจอสีดำ

6 เข้าสู่ระบบ iCloud อีกครั้ง

เมื่อการส่ง AirDrop ไม่สำเร็จ หรือล้มเหลวขณะดำเนินการส่งรูปผ่าน AirDrop อาจเป็นปัญหาที่บัญชี iCloud ซึ่งสามารถออกจากระบบและเข้าสู่ระบบใหม่อีกครั้ง

ขั้นตอนแก้ไข: ไปที่ “การตั้งค่า” คลิกชื่อบัญชีที่ด้านบนสุดของคุณ > เลื่อนลงมากดแตะ “ลงชื่อออก” > จากนั้นเข้าสู่ระบบ iCloud ใหม่อีกครั้ง

เข้าสู่ระบบ iCloud อีกครั้ง

7 รีเซ็ตเครือข่าย

หากรับแอร์ดรอปไม่ได้ เป็นไปได้ว่าการเชื่อมต่อกับเครือข่ายมีข้อผิดพลาดบางประการ ซึ่งคุณสามารถรีเซ็ตเครือข่าย Wi-Fi และ Bluetooth ได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต”

ขั้นตอนที่ 2: กดเลือก “รีเซ็ต” และกดหัวข้อ “รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย” ซึ่งจะรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายทั้งหมด โดยไม่ลบข้อมูลที่สำคัญ เช่น รูปภาพ หรือไฟล์ข้อมูลอื่น ๆ เพียงแต่จะลบรหัสผ่าน Wi-Fi และการใช้งาน Bluetooth

รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย

8 ใช้เครื่องมือกู้คืนระบบ iOS [อัตราสำเร็จ 99%]

สุดท้าย หากคุณทำตามขั้นตอนดังกล่าวมาทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาส่งรูปผ่าน AirDrop ได้เลย เราขอแนะนำเครื่องมือiMyFone Fixppoเพราะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับ iOS ได้ตรงจุด รวดเร็ว และปลอดภัยอีกด้วย

แนะนำฟังก์ชันหลักของ Fixppo

  • สามารถแก้ไขปัญหา Airdrop รับไม่ได้ หรือส่ง Airdrop ไม่สำเร็จ ได้อย่างง่ายดาย เพียงไม่กี่ขั้นตอนและไม่กี่คลิกเท่านั้น
  • รองรับการใช้งานในอุปกรณ์ Apple ได้ทั้งหมด และรองรับเวอร์ชัน iOS ทุกเวอร์ชัน
  • นำไปใช้งานแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โทรศัพท์เสียงขาด ๆ หาย ๆ หรือไอโฟนดับเองและอื่น ๆ
  • อินเทอร์เฟซเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วทุกคน
  • หากไม่พบ AirDrop เนื่องจากการอัปเดตระบบปฏิบัติการ ก็สามารถช่วยคุณดาวน์เกรด iOS ได้ด้วยคลิกเดียว

ดาวน์โหลดไปทดลองใช้งานได้แล้ววันนี้

วิธีแก้ไขปัญหาส่งรูปผ่าน AirDrop ไม่ได้ โดยใช้เครื่องมือ Fixppo

ขั้นตอนที่ 1: โหลดและติดตั้ง “Fixppo” ลงบนคอมพิวเตอร์ และเลือกโหมด “ซ่อมแซมมาตรฐาน

fixppo โหมดมาตรฐาน

ขั้นตอนที่ 2: นำอุปกรณ์ iOS มาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์

เข้าสู่โหมดการกู้คืน

ขั้นตอนที่ 3: ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ และเครื่องมือจะทำการติดตั้งเฟิร์มแวร์ที่เหมาะสม และซ่อมแซมระบบ iOS ให้อัตโนมัติ

ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ภายใต้โหมดมาตรฐาน

ขั้นตอนที่ 4: ใช้เวลารอไม่นาน คุณสามารถใช้ AirDrop ส่งรูปหรือรับรูปได้สำเร็จอย่างแน่นอน

ซ่อมอุปกรณ์ของคุณเสร็จแล้ว

ส่วนที่ 4: แก้ไข Mac ใช้ AirDrop แล้วไม่พบผู้คน

ถ้าเกิดคุณใช้ MacBook และได้เปิด AirDrop แต่กลับไม่พบผู้คนเลย คุณสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ตามวิธีที่เราจะนำเสนอทั้ง 6 วิธี

1 เปลี่ยนการตั้งค่า AirDrop ใน Finder

เมื่อ MacBook ใช้ AirDrop ไม่พบผู้คน จำเป็นต้องตั้งค่า AirDrop ใน Finder ใหม่อีกครั้ง โดยขั้นตอนแก้ไข มีดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: เปิด “Finder” บน MacBook > คลิก “AirDrop” ในแถบด้านข้าง

ขั้นตอนที่ 2: สลับไปใช้ตัวเลือก “ทุกคน” เพื่อค้นหา AirDrop

เปลี่ยนการตั้งค่า AirDrop ใน Finder

2 เชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกัน

หากระหว่างดำเนินการส่งรูปผ่าน AirDrop แล้วเกิดปัญหาส่งรูปไม่สำเร็จ เป็นไปได้ว่าเครือข่ายล้มเหลว ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการส่งรูปได้มากยิ่งขึ้น และมีความเสถียรภาพมากขึ้นอีกด้วย

3 ปิดการใช้งาน Firewall

การที่ส่งรูปผ่าน AirDrop แล้ว AirDrop ไม่พบผู้คน บางทีคุณได้เปิด Firewall ใน MacBook ทำให้ AirDrop ทำงานผิดพลาดได้ ซึ่งมีขั้นตอนแก้ไข ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่าระบบ” > “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว”

ขั้นตอนที่ 2: สลับไปที่หน้าต่าง “Firewall” และกดปิด Firewall จากนั้นตรวจสอบว่า “ปิดกั้นการเชื่อมต่อทั้งหมด” ได้ปิดอยู่หรือไม่?

ปิดการใช้งาน Firewall

4 รีสตาร์ท Wi-Fi และ Bluetooth

หากคุณไม่สามารถส่งรูปผ่าน AirDrop ได้ และผู้รับ AirDrop ไม่สำเร็จ อาจเกิดปัญหาที่การเชื่อมต่อของ Wi-Fi และ Bluetooth ซึ่งคุณสามารถรีสตาร์ทการทำงานได้ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: คลิกไอคอน “Wi-Fi” แล้วกดปิด จากนั้นกดคลิกไอคอน “Wi-Fi” เพื่อเปิดการทำงานอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 2: คลิกไอคอน “Bluetooth” แล้วกดปิด จากนั้นกดคลิกไอคอน “Bluetooth” เพื่อเปิดการทำงานอีกครั้ง

5 รีสตาร์ท MacBook ของคุณ

เมื่อ MacBook แสดง AirDrop อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังคงเกิดปัญหารับ AirDrop ไม่ได้ เราขอแนะนำให้คุณรีสตาร์ท MacBook โดยเพียงคลิกไปที่ไอคอน Apple แล้วกดเลือก “Restart” เป็นอันเสร็จสิ้น

วิธีใช้ AirDrop อย่างถูกวิธี

6 อัปเดต MacOS

เป็นไปได้ว่าการที่ MacBook ใช้ AirDrop ไม่พบผู้คน เพราะเวอร์ชัน MacOS เก่าหรือล้าสมัยเกินไป ทำให้ไม่รองรับกับอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งคุณสามารถทำการอัปเดตได้ดังนี้

ขั้นตอนแก้ไข: ไปที่ “การตั้งค่าระบบ” > คลิก “อัปเดตซอฟต์แวร์” > กดคลิก “อัปเดตทันที” และใช้เวลารอจนกว่าดำเนินการจะเสร็จสิ้น

วิธีใช้ AirDrop อย่างถูกวิธี

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้าง? เราหวังว่าเนื้อหาภายในบทความนี้ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องรับ AirDrop ไม่ได้ หรือส่ง AirDrop ไม่สำเร็จ รวมถึงใช้ AirDrop ไม่พบผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าใครอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จะรู้ได้เลยว่าการใช้เครื่องมืออย่าง “iMyFone Fixppo” สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ซึ่งจะซ่อมแซมระบบ iOS ให้คุณอย่างกับมืออาชีพ ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ เลยทีเดียว