งานประชุมนักพัฒนาระดับโลก WWDC 2025 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งในงานนี้ Apple ได้เปิดตัวหลายฟีเจอร์ใหม่ ๆ แต่ยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ iOS 19 รุ่นที่รองรับและวันเปิดตัว เวอร์ชันเต็มของ iOS 19 คาดว่าจะปล่อยให้อัปเดตพร้อมกับการเปิดตัว iPhone 17 ในเดือนกันยายนนี้

ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปสำรวจว่า ios 19 มีอะไรใหม่ จากข้อมูลและข่าวลือต่าง ๆ ที่หลุดออกมา รวมถึง 12 ฟีเจอร์เด่นที่น่าจับตามอง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมกับการอัปเดตครั้งใหญ่ของระบบปฏิบัติการ iPhone รุ่นล่าสุด

iOS 19 รุ่นที่รองรับ

ส่วนที่ 1: iOS 19 รุ่นที่รองรับ

iOS 19 จะรองรับเฉพาะ iPhone ที่ใช้ชิป A13 Bionic ขึ้นไปเท่านั้น โดยจะตัดรุ่นที่ใช้ชิป A12 Bionic ออก ซึ่งทำให้ iPhone รุ่นเก่าบางรุ่นไม่สามารถอัปเกรดเป็น iOS 19 ได้

▼ iOS 19 รุ่นที่คาดว่าจะรองรับ iOS 19 ได้แก่:

  • iPhone SE (รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3)

  • iPhone 11, 11 Pro, 11 Pro Max

  • iPhone 12, 12 mini, 12 Pro, 12 Pro Max

  • iPhone 13, 13 mini, 13 Pro, 13 Pro Max

  • iPhone 14, 14 Plus, 14 Pro, 14 Pro Max

  • iPhone 15, 15 Plus, 15 Pro, 15 Pro Max

  • iPhone 16e, 16, 16 Plus, 16 Pro, 16 Pro Max

  • รวมถึง iPhone 17 ซีรีส์ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า iPhone XS, XS Max และ XR จะไม่ได้รับการอัปเดตเป็น iOS 19 แต่ Apple ยังคงปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับรุ่นเก่าอยู่เหมือนเช่นเคย เช่น การอัปเดต iOS 16.7.11 ที่เพิ่งปล่อยให้กับ iPhone 8 และ iPhone X เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยต่าง ๆ

ส่วนที่ 1: iOS 19 รุ่นที่รองรับ

1 ไอคอนแอปเปลี่ยนเป็นมุมโค้งมนมากขึ้น

หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของ iOS 19 คือการปรับดีไซน์อินเทอร์เฟซใหม่ทั้งหมด โดยได้แรงบันดาลใจจากระบบของ Vision Pro เน้นความโค้งมนของไอคอน เอฟเฟกต์โปร่งใส และมิติที่ดูมีความลึกมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของหน้าจอดูทันสมัยและสร้างความรู้สึกเสมือนจริงมากกว่าเดิม

iOS 18 รุ่นที่รองรับ

2 รองรับโหมดมัลติทาสก์แบบ Stage Manager

iOS 19 จะเพิ่มฟีเจอร์ “Stage Manager” สำหรับ iPhone ที่ใช้พอร์ต USB-C เช่น iPhone 15 ซีรีส์ทั้งหมด โดยฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone กับจอแสดงผลภายนอกและเปิดใช้งานหลายแอปในรูปแบบหน้าต่างพร้อมกันได้ ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานของ iPhone ให้สูงขึ้น และมอบประสบการณ์ใช้งานที่ราบรื่นทั้งการทำงานและความบันเทิง

3 RCS รองรับการเข้ารหัสแบบ End-to-End และฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ

Apple ได้ประกาศในเดือนมีนาคม 2025 ว่าจะเพิ่มการรองรับ RCS (Rich Communication Services) ในแอป Messages พร้อมรองรับการเข้ารหัสแบบ end-to-end คาดว่าจะมาพร้อมกับ iOS 19 ซึ่งหมายความว่า Apple จะรองรับมาตรฐาน RCS Universal Profile 3.0 อย่างเป็นทางการ

นอกจากการรองรับการเข้ารหัสแบบ end-to-end แล้ว ฟีเจอร์การสนทนา RCS ใน iOS 19 ยังได้รับการอัปเกรดเพิ่มเติม เช่น การตอบกลับข้อความทันที, แก้ไขข้อความ, ถอนการส่งข้อความที่ส่งไปแล้ว, ปฏิกิริยา Tapback แบบครบถ้วน รวมถึงระบบความปลอดภัยการเข้ารหัสเทียบเท่ากับ iMessage

4 AirPods รองรับการแปลเสียงแบบเรียลไทม์ (Real-time Voice Translation)

Apple จะเพิ่มฟีเจอร์ “แปลเสียงสด” สำหรับ AirPods Pro ในการอัปเดต iOS 19

ฟีเจอร์แปลเสียงสดของ AirPods ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้แบบเรียลไทม์ โดย iPhone จะแปลเป็นภาษาไทยทันทีและส่งเสียงผ่าน AirPods คล้ายกับฟีเจอร์ Live Translate ของ Google Pixel นอกจากนี้ Apple ยังมีแผนพัฒนาฟังก์ชันและขอบเขตภาษาของแอปแปลภาษาต้นทางให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

5 นำ AI มาใช้เป็นโค้ชสุขภาพและติดตามอาหาร

Apple กำลังวางแผนเปิดตัวแอปสุขภาพ (Health App) ที่ออกแบบใหม่ใน iOS 19.4 หรือเวอร์ชันถัดไป โดยฟีเจอร์ไฮไลต์คือ “AI โค้ชสุขภาพ” หรือฟีเจอร์แพทย์ AI

ฟีเจอร์ AI โค้ชสุขภาพใน iOS 19 จะใช้ข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้ในการแนะนำคำแนะนำที่ปรับตามแต่ละบุคคล พร้อมด้วยวิดีโออธิบายจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เช่น เมื่อ Apple Watch ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ แอปจะส่งคำอธิบายความเสี่ยงและแนวทางการปรับปรุง นอกจากนี้ ฟีเจอร์บันทึกการรับประทานอาหารจะกลายเป็นจุดเด่นใหม่ของเวอร์ชันนี้ คาดว่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญของแอปอย่าง MyFitnessPal

6 Siri อัปเกรดรวมกับ Apple Intelligence

Apple เคยประกาศฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่จะรวมกับ “Siri ส่วนบุคคล” ในงาน WWDC 2024 แต่ฟีเจอร์นี้ถูกเลื่อนการเปิดตัว คาดว่าจะปล่อยพร้อม iOS 19 หรือเวอร์ชันย่อย 19.1–19.4 ในอนาคต

Siri รุ่นใหม่ที่ผสานกับ Apple Intelligence จะมีความสามารถขั้นสูง เช่น “การรับรู้หน้าจอ” และ “การเข้าใจบริบทส่วนบุคคล” สามารถใช้ข้อมูลจากแอป Mail, Messages เพื่อให้คำตอบอัตโนมัติในคำถามที่ซับซ้อน เช่น การแจ้งเตือนเที่ยวบินหรือการนัดหมายของครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Siri ขั้นสูงนี้จะรองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่มี Apple Intelligence เช่น iPhone 15 Pro ซีรีส์, iPhone 16 ซีรีส์ และ iPhone 17 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในอนาคต

7 AI รวมกับ Google Gemini

มีรายงานว่า iOS 19 อาจผสานรวม Google Gemini เป็นตัวเลือก AI ที่สอง

ที่ผ่านมา ตั้งแต่ iOS 18.2 เป็นต้นมา Apple ได้ฝัง ChatGPT เพื่อช่วย Siri ตอบคำถามและสร้างเนื้อหา หากในอนาคตมีการเพิ่ม Gemini เข้ามา จะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือก AI ที่หลากหลายยิ่งขึ้น

8 ฟีเจอร์ถ่ายภาพเฉพาะ iPhone 17 Pro ทั้งกล้องหน้าและหลัง

iPhone 17 Pro จะมาพร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพใหม่เฉพาะรุ่นนี้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอโดยใช้กล้องหลังเป็นหลัก พร้อมเปิดใช้งานกล้องหน้าควบคู่ไปด้วยได้ในเวลาเดียวกัน

9 ฟีเจอร์ใหม่ในการเสริมความปลอดภัยของเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะ

ฟีเจอร์นี้แม้เป็นการปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อย แต่คาดว่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาของผู้ใช้ Apple จำนวนมากได้อย่างดี

โดย Apple วางแผนให้ผู้ใช้เพียงแค่ล็อกอินผ่านหน้าเข้าสู่ระบบ Wi-Fi สาธารณะบนอุปกรณ์หนึ่งเครื่อง เช่น หน้าเว็บสำหรับยืนยันตัวตนในโรงแรม ฟิตเนส หรือสำนักงาน ระบบก็จะซิงค์ข้อมูลการเข้าสู่ระบบนั้นไปยังอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่น ๆ ที่ใช้งานด้วยบัญชีเดียวกันโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องล็อกอินซ้ำ

10 การจัดการแบตเตอรี่ด้วย AI

Apple คาดว่าจะเปิดตัวฟีเจอร์จัดการแบตเตอรี่ด้วย AI ใหม่ในระบบปฏิบัติการ iOS 19 โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ iPhone เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรพลังงาน และช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น

ฟีเจอร์นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของชุดฟังก์ชันอัจฉริยะ "Apple Intelligence" และรองรับกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่ใช้ iOS 19

11 ฟีเจอร์ใหม่เพื่อการเข้าถึงแบบไม่มีข้อจำกัด

Apple เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ช่วยเหลือสำหรับผู้พิการใหม่กว่า 20 ฟังก์ชันใน iOS 19 และ macOS 16 ได้แก่ การเพิ่ม “ป้ายข้อมูลช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ (Accessibility Nutrition Labels)” ใน App Store และบนแพลตฟอร์ม Mac จะมีแอป “แว่นขยาย (Magnifier)” เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ยอดนิยม “เสียงส่วนตัว (Personal Voice)” จะได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการช่วยสื่อสารด้วยเสียง รวมถึงฟีเจอร์ฟังเสียงสด, เสียงพื้นหลัง และการแจ้งเตือนสถานะการเคลื่อนที่ของรถยนต์ เป็นต้น


สรุป

iOS 19 มาพร้อมกับการปรับปรุงและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน ทั้งดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชัน AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการเข้าถึงที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ iPhone ของคุณพร้อมก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้งานที่สะดวกสบายและชาญฉลาดมากขึ้นอย่างแท้จริง