Mark Gurman จาก Bloomberg ได้เผยว่า Apple เตรียมจะทำการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ iPad Pro 2024 ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 แล้ว iPad Pro รุ่นใหม่จะมีการปรับปรุงสเปกอย่างไรบ้าง?

ในบทความนี้ เราจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเวลาเปิดตัว สเปกที่โดดเด่น พื้นที่จัดเก็บ และราคาของ iPad Pro 2024 ไว้ให้กับผู้ที่สนใจและเตรียมตัวสำหรับการเลือกซื้อ iPad Pro 2024 ไปดูกันเลย

iPad Pro 2024

ส่วนที่ 1: iPad Pro 2024 จะเปิดตัวเมื่อไหร่?

งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งแรกของ Apple ในปี 2024 ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจัดขึ้นในเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ในงานนี้ Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ รวมถึง iPad Pro 2024 ซึ่งมาพร้อมกับชิป M4 แต่ยังมี 2 ไซส์เหมือนเดิมคือ 11 และ 13 นิ้ว

อีกทั้งตัวเครื่องจะบางลงโดยรอบนี้ความบางเหลือเพียงแค่ 5.1 มม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Apple เคลมว่าบางที่สุดในบรรดาทุกสินค้าของแบรนด์ ช่วยให้หยิบจับพกพาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

✳️ WWDC 2024 จะจัดขึ้นเมื่อใด?

✳️ iOS 18 รุ่นที่รองรับ +22 ฟีเจอร์ใหม่! รวมถึงวันเปิดตัว iOS 18

ส่วนที่ 2: ราคาและพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iPad Pro 2024จะเปิดตัวเมื่อไหร่?

iPad Pro 2024 เปิดตัวมาพร้อมกับชิป M4 และมีสองขนาดให้เลือก ได้แก่ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว โดยมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและราคาต่างกันดังนี้

iPad Pro 11 นิ้ว (M4)

รุ่น Wi-Fi
รุ่น Wi-Fi + Cellular
256GB
39,900 บาท
47,900 บาท
512GB
47,900 บาท
55,900 บาท
1TB
63,900 บาท
71,900 บาท
2TB
79,900 บาท
87,900 บาท

iPad Pro 13 นิ้ว (M4)

รุ่น Wi-Fi
รุ่น Wi-Fi + Cellular
256GB
52,900 บาท
60,900 บาท
512GB
60,900 บาท
68,900 บาท
1TB
76,900 บาท
84,900 บาท
2TB
92,900 บาท
100,900 บาท

ส่วนที่ 3: ข้อมูลสเปกของ iPad Pro 2024

iPad Pro 2024 มาพร้อมกับการปรับปรุงสเปกและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการใช้งานที่หลากหลาย นี่คือข้อมูลสเปกที่สำคัญของ iPad Pro 2024

1. อัปเกรดดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2018

Mark Gurman จาก Bloomberg ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวภายใน Apple ว่า iPad Pro รุ่นปี 2024 จะเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา

สำหรับปี 2024 Apple เตรียมที่จะนำเสนอ iPad Pro รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตัวเครื่องจะบางลงเหลือเพียงแค่ 5.1 มม. และถือเป็นความบางที่สุดจากทุกสินค้าของแบรนด์

อัปเกรดดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2018

2. ทดสอบ iPad Pro รุ่นใหม่ 4 รุ่น

Apple ได้เริ่มทดสอบ iPad Pro รุ่นใหม่ทั้งหมด 4 รุ่นตั้งแต่ปี 2023 โดยมีรหัสภายในคือ J717, J718, J720 และ J721 การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ใหม่มีคุณภาพสูง และสามารถใช้งานได้ดีในทุกสถานการณ์

ทดสอบ iPad Pro รุ่นใหม่ 4 รุ่น

3. ขอบจอบางลง

iPad Pro 2024 มี 2 ไซส์เหมือนเดิมคือ 11 และ 13 นิ้ว แต่การออกแบบขอบจอที่บางลงเหลือเพียงแค่ 5.1 มม. จะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและสวยงามมากยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการ และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

ในเดือนมีนาคม ภาพวาดการออกแบบ CAD ของ iPad Pro ปี 2024 ก็รั่วไหลออกมาเช่นกัน เพื่อยืนยันว่า Apple จะเปิดตัว iPad Pro รุ่น 11 นิ้วและ 13 นิ้ว 2 รุ่นในปีนี้

ขอบจอบางลง

4. ใช้หน้าจอ OLED

Apple จะนำหน้าจอ OLED มาใช้กับ iPad Pro 2024 ซึ่งจะมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิม นอกจากนี้ หน้าจอ OLED ยังมีความบางและเบามากขึ้น พร้อมกับการออกแบบขอบจอที่แคบลง

ใช้หน้าจอ OLED

5. ติดตั้งชิป Apple M4

iPad Pro 2024 จะมาพร้อมกับชิปประมวลผลใหม่ล่าสุดอย่าง Apple M4 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ iPad Pro อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวิดีโอ การเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง หรือการทำงานในแอปพลิเคชันที่ต้องการทรัพยากรสูง iPad Pro 2024 จะทำงานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล

ติดตั้งชิป Apple M4

6. ย้ายตำแหน่งเลนส์ด้านหน้าและ Face ID

iPad Pro รุ่นใหม่จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งของเลนส์ด้านหน้าและเลนส์กล้อง TrueDepth Face ID โดยเลนส์ด้านหน้าจะถูกย้ายไปที่กึ่งกลางของกรอบด้านขวา ส่วนเลนส์กล้อง Face ID จะถูกย้ายไปทางด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานแนวนอนมากขึ้น

ติดตั้งชิป Apple M4

7. เพิ่ม RAM สูงสุด 16GB

iPad Pro 2024 ได้มีการปรับเปลี่ยนหน่วยความจำ RAM ให้มีขนาดแตกต่างกันตามความจุของพื้นที่เก็บข้อมูล โดยรุ่นที่มีพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB และ 512GB มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB ส่วนรุ่นพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB และ 2TB มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 16GB

8. ปรับปรุงเลนส์ iPad Pro และ HDR5

iPad Pro รุ่นใหม่ในปี 2024 ปรับปรุงเลนส์กล้องหลัง โดยมีเลนส์ Wide และ Ultra Wide ความละเอียดสูง และปรับปรุงเซ็นเซอร์ เพื่อให้การถ่ายภาพมีความคมชัดและสีสันที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กล้องหน้า กล้อง TrueDepth ความละเอียด 12MP พร้อมฟีเจอร์ Center Stage ที่ช่วยให้การสนทนาวิดีโอมีความคมชัดและสะดวกยิ่งขึ้น

อีกทั้ง iPad Pro 2024 รองรับเทคโนโลยี HDR 5 ซึ่งเป็นการพัฒนาใหม่ที่จะช่วยให้การแสดงผลภาพถ่าย และวิดีโอมีความคมชัด และสีสันที่สมจริง

9. Thunderbolt / USB 4 พอร์ตเชื่อมต่อใหม่

iPad Pro 2024 จะมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ที่รองรับเทคโนโลยี Thunderbolt / USB 4 ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ และการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วสูงสุดถึง 40Gbps ทำให้การย้ายไฟล์ขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็ว

Thunderbolt / USB 4 พอร์ตเชื่อมต่อใหม่

10. รองรับ MagSafe

iPad Pro 2024 มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ Apple ด้านหลังให้เป็นวัสดุแก้ว เพื่อรองรับการชาร์จแบบไร้สาย MagSafe ช่วยให้การชาร์จมีความเร็วมากขึ้น

11. ชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ

สามารถใช้ iPad Pro เป็นแหล่งพลังงานในการชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น iPhone, AirPods หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้โดยวางไว้บนด้านหลังของ iPad ทำให้ผู้ใช้สามารถชาร์จอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นพร้อมกันได้โดยไม่ต้องใช้สายชาร์จ

ชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ

12. Magic Keyboard รุ่นใหม่

Magic Keyboard รุ่นใหม่จะได้รับการออกแบบใหม่พร้อมกับการเปิดตัว iPad Pro 2024 โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายประการเพื่อให้ iPad Pro ดูเหมือนแล็ปท็อปมากขึ้น โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook ซึ่งจะช่วยเพิ่มความทนทานและให้ความรู้สึกที่หรูหรา และเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C เพื่อให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ สะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น

Magic Keyboard รุ่นใหม่

13. รองรับ Apple Pencil Gen 3

Apple Pencil Gen 3 มาพร้อมกับหัวปากกาแม่เหล็กที่สามารถเปลี่ยนได้ถึง 4 แบบ เพื่อให้สามารถจำลองสไตล์การวาดที่แตกต่างกัน ซึ่งหัวปากกาเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาดและเขียนได้หลากหลายรูปแบบ ตามความต้องการและความชอบ


บทสรุป

iPad Pro 2024 มาพร้อมกับการปรับปรุงสเปกและดีไซน์ที่สำคัญ รวมถึงราคาที่หลากหลายตามรุ่นและความจุพื้นที่เก็บข้อมูล ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถและประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย

การซื้อ iPad Pro ใหม่เป็นการลงทุนที่สำคัญ และบางครั้งอาจเกิดปัญหาที่ทำให้การใช้งานไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น เครื่องค้าง การอัปเดตไม่สำเร็จ เครื่องไม่ตอบสนองขณะใช้งาน หรือหน้าจอดำ เป็นต้น

จะดีกว่าหรือไม่? ถ้าคุณได้ใช้เครื่องมือซ่อมแซมระบบ iOS อย่าง iMyFone Fixppo เป็นซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของอุปกรณ์ iOS ไม่ทำให้ข้อมูลเสียหาย และไม่ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายที่เยอะจนเกินไปอีกด้วย

แนะนำฟังก์ชันหลักของ iMyFone Fixppo

  • แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของระบบปฏิบัติการ iOS, iPadOS และ tvOS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผู้ใช้สามารถเข้าและออกจากโหมดการกู้คืน (Recovery Mode) ได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 คลิก
  • แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของอุปกรณ์ iOS โดยไม่ทำให้ข้อมูลสูญหาย เช่น เครื่องค้าง หน้าจอดำ หรือการไม่ตอบสนองของอุปกรณ์
  • สามารถดาวน์เกรดระบบปฏิบัติการ iOS ไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าได้โดยไม่ต้องทำการเจลเบรก
  • รองรับการทำงานใน iOS เวอร์ชันล่าสุด และอุปกรณ์ iOS ใหม่ล่าสุดด้วยเช่นกัน