99% แก้ไข ไอโฟนไม่แจ้งเตือน

อัตราความสำเร็จสูงมากในการซ่อมแซมข้อผิดพลาดที่ iPhone ไม่แจ้งเตือน ไม่ต้องส่งซ่อมเพื่อประหยัดเวลา ป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ปลอดภัย 100% ใช้ได้กับ iPhone ทุกรุ่นและระบบ iOS (รวมถึง iOS 18/17/16)

ทดลองใช้ฟรี

เมื่อไอโฟนไม่แจ้งเตือนจากแอพทุกตัว เช่น ฟีดข่าว ข้อเสนอจากแอพช้อปปิ้ง ข้อความ Messenger และอื่น ๆ ผู้ใช้งานอาจไม่ทราบถึงความคืบหน้าต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสตอบกลับการสนทนากับผู้อื่น หรือพลาดข้อเสนอพิเศษจากแอพต่าง ๆ

ดังนั้น ในบทความนี้เราจึงรวบรวมวิธีการแก้ไขปัญหา iPhone ไม่แจ้งเตือนมาให้คุณทราบถึง 6 วิธี ซึ่งสามารถทำตามได้ง่าย ๆ เรารับรองว่า คุณจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน มาติดตามกันเลย! (>>หากคุณพบปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือนโทรเข้าไอโฟน สามารถคลิกเพื่อหาวิธีแก้ไขเพิ่มเติม)

ไอโฟนไม่แจ้งเตือนทุกแอพ

6 วิธีแก้ไขปัญหาอัพ iOS แล้วไอโฟนไม่แจ้งเตือนทุกแอพ

การแจ้งเตือนไอโฟนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ใช้งานทราบถึงความคืบหน้าและติดตามข่าวสารได้อย่างทันท่วงที แต่หากคุณพบว่า ไอโฟนไม่แจ้งเตือนทุกแอพ iOS 18/17/16/15/14.. อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เปิดโหมดห้ามรบกวน การตั้งค่าผิดพลาด หรือบางแอพต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ต้องกังวล! เราได้รวบรวม 6 วิธีแก้ไขปัญหานี้ พร้อมแนะนำวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดให้คุณทำตามทันที

1ปิดฟีเจอร์ห้ามรบกวน

หากคุณไปกดเปิดใช้งานฟีเจอร์ “ห้ามรบกวน” แน่นอนว่า iPhone จะปิดการระบบแจ้งเตือนทั้งหมด รวมถึงการโทรเข้าเช่นกัน ซึ่งถ้าไอโฟนไม่แจ้งเตือนทุกแอพ หรือไอโฟนไม่มีเสียงแจ้งเตือน เป็นไปได้ว่าคุณได้เปิดใช้ฟีเจอร์นี้อยู่ ซึ่งมีวิธีปิดฟีเจอร์ดังนี้ต่อไปนี้

วิธีที่หนึ่ง

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” ใน iPhone > “โฟกัส”

ขั้นตอนที่ 2:แตะ “ห้ามรบกวน” เพื่อตั้งค่าให้ปิดฟีเจอร์การใช้งาน

ปิดฟีเจอร์ห้ามรบกวน

วิธีที่สอง

ขั้นตอนที่ 1: ปัดหน้าจอ iPhone จากมุมขวาบนลงล่าง เพื่อเปิด “ศูนย์ควบคุม”

ขั้นตอนที่ 2:มองหาไอคอน “ดวงจันทร์” แล้วกดแตะไอคอนหนึ่งครั้ง เพื่อให้ฟีเจอร์เป็นสีเทา และปิดการใช้งานเรียบร้อย

ปิดฟีเจอร์ห้ามรบกวน

2ตรวจสอบการแจ้งเตือนของแอพ

เมื่อคุณพบว่าเสียงแจ้งเตือนไอโฟนไม่ดัง เป็นไปได้ว่าคุณเผลอไปปิดการแจ้งเตือนไอโฟนโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ไอโฟนไม่แจ้งเตือนนั่นเอง ซึ่งมีวิธีแก้ไขดังนี้

ขั้นตอนที่ 1:ไปที่ “การตั้งค่า” > “การแจ้งเตือน”

ขั้นตอนที่ 2: ค้นหาแอพหรือโปรแกรมที่ไม่มีการแจ้งเตือน และกดแตะที่แอพนั้น ๆ เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

ขั้นตอนที่ 3:กดแตะเปิด “อนุญาตการแจ้งเตือน” และจะข้อความแจ้งเตือนในหน้าจอ iPhone

การตั้งค่าใน iOS

3รีสตาร์ท iPhone

สำหรับการรีสตาร์ท iPhone สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับไอโฟนไม่แจ้งเตือนได้ดีและรวดเร็ว เพื่อปิดการทำงานที่เกิดข้อผิดพลาด หรือปิดโปรแกรมการทำงานที่ค้างอยู่ได้เช่นกัน โดยมีวิธีบังคับรีสตาร์ท iPhone ดังนี้

  • อุปกรณ์ที่ไม่มี “ปุ่มโฮม” ให้กดปุ่ม “ระดับเสียง” และปุ่ม “เปิด/ปิด” ค้างไว้ จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏ จากนั้นให้เลื่อนเพื่อปิดเครื่อง
  • ส่วนอุปกรณ์ที่มีปุ่มโฮม ให้กด “เปิด/ปิด” ค้างไว้ จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏ จากนั้นให้เลื่อนเพื่อปิดเครื่อง
  • หลังจากรอประมาณ 1-2 นาที ให้ทำการกดปุ่ม “เปิด/ปิด” เพื่อเปิดเครื่องอีกครั้ง

รีสตาร์ท iPhone

4ตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย

โดยปกติแล้ว เกือบทุกแอพพลิเคชันบน iPhone จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อกับเครือข่าย ซึ่งหากการเชื่อมต่อไม่เสถียร จะทำให้ ไม่แจ้งเตือนทุกแอพ หรือ iPhone ไม่แจ้งเตือน ดังนั้นคุณอาจจะต้องตรวจสอบว่าเครือข่ายเป็นปกติหรือไม่ ดังนี้

  • คุณสามารถดูไอคอน Wi-Fi ที่ด้านบน หรือไปที่ “การตั้งค่า” > “Wi-Fi” > เลือก เครือข่ายที่สัญญาณแรงที่สุด
  • นอกจากนี้หากไม่มีเครือข่าย Wi-Fi คุณยังใช้ “เซลลูลาร์” หรือข้อมูลมือถือ เพื่อรับการแจ้งเตือนไอโฟนจากแอพได้เช่นกัน

✳️ อ่านเพิ่มเติม:ไอโฟนเชื่อมไวไฟไม่ได้ทำอย่างไร?

5รีเซ็ตการตั้งค่า iPhone ทั้งหมด

การรีเซ็ตการตั้งค่า iPhone ทั้งหมดให้เป็นค่าเดิมจากโรงงาน เพื่อแก้ไขการตั้งค่าที่คุณปรับแต่งให้เป็นค่าดั้งเดิม ทั้งนี้ข้อมูลในอุปกรณ์จะไม่ถูกลบออกไป เพียงแต่จะลบเกี่ยวกับ รหัสผ่าน Wi-Fi, Bluetooth และอื่น ๆ โดยมีขั้นตอนรีเซ็ตการตั้งค่า ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1:ไปที่ “การตั้งค่า” ใน iPhone > “ทั่วไป” > “ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone”

ขั้นตอนที่ 2:กดแตะ “รีเซ็ต” และเลือก “รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด” จากนั้นใช้เวลาสักครู่ เพื่อให้ iPhone เป็นค่าเดิมจากโรงงาน เพื่อแก้ไขปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือน

รีเซ็ตการตั้งค่า iPhone ทั้งหมด

6ใช้เครื่องมือซ่อมแซมระบบ iOS

สุดท้ายแล้ว หากคุณไม่สามารถแก้ไขไอโฟนไม่แจ้งเตือนได้ เราขอแนะนำเครื่องมือซ่อมแซมระบบ iOS ที่อาจเกิดปัญหาและส่งผลทำให้แอพไม่แจ้งเตือน iPhone นั้นก็คือ “iMyFone Fixppo” เพราะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุด และช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับ iOS ได้อย่างมืออาชีพ ไม่ต้องรีบนำส่งซ่อมมือถือ และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอีกด้วย

แนะนำฟังก์ชันหลักของ iMyFone Fixppo:

  • มีอัตราการแก้ไขสำเร็จสูง เพียงใช้โหมดซ่อมแซมมาตรฐาน ไว้วางใจได้เลยว่า ปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือนจะได้รับการแก้ไขแน่นอน
  • รองรับ iPhone ทุกรุ่น และ iOS ทุกเวอร์ชัน รวมถึงผู้ที่เกิดปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือนทุกแอพใน iOS 18/17 เช่นกัน
  • ยังนำไปใช้แก้ไขปัญหาอื่น ๆ ได้มากมาย เช่นอัพ iOS 18/17 แล้วเข้าไอจีไม่ได้, ไอโฟนเข้า App Store ไม่ได้ และ iMessage ใช้ไม่ได้เป็นต้น
  • หน้าต่างภายในเครื่องมือหรืออินเทอร์เฟซต่าง ๆ ใช้งานง่าย รองรับผู้ใช้งานทุกเพศ ทุกวัย

จะรอช้าอยู่ทำไม? รีบดาวน์โหลดไปทดลองใช้งานได้ด้วยตนเอง!

วิธีแก้ไขปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือน หลังจากอัพ iOS 18/17 โดยใช้เครื่องมือ “iMyFone Fixppo”

ขั้นตอนที่ 1: โหลดและติดตั้ง “iMyFone Fixppo” ลงบนระบบคอมพิวเตอร์ และกดเลือกโหมด “ซ่อมแซมมาตรฐาน”

fixppo โหมดมาตรฐาน

ขั้นตอนที่ 2: จากนั้นนำ iPhone ที่มีปัญหาการแจ้งเตือนไอโฟนไม่ขึ้น มาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB และกดคลิก “ถัดไป”

เข้าสู่โหมดการกู้คืน

ขั้นตอนที่ 3: เครื่องมือจะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ และกดคลิก “เริ่ม” จะเริ่มดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ในเวอร์ชันที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหา iPhone ไม่แจ้งเตือน

ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ภายใต้โหมดมาตรฐาน

ขั้นตอนที่ 4: ใช้เวลารอไม่นาน iPhone ของคุณจะได้รับการซ่อมแซม และปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือนทุกแอพได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน

ซ่อมอุปกรณ์ของคุณเสร็จแล้ว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไอโฟนไม่แจ้งเตือน

1. ทำไมไอโฟนไม่มีเสียงแจ้งเตือน

สาเหตุที่ iPhone ไม่มีเสียงแจ้งเตือนอาจเกิดจากหลายปัจจัย ลองตรวจสอบดังนี้:

  • เปิดเสียงแจ้งเตือน: ไปที่ การตั้งค่า > เสียงและการสั่น > เสียงแจ้งเตือน และตรวจสอบว่าเสียงถูกเปิดอยู่

  • โหมดเงียบหรือโหมดโฟกัส: ตรวจสอบว่าปิดโหมดเงียบ (สวิตช์ด้านข้าง) และไม่ได้เปิดโหมดโฟกัส (โหมดห้ามรบกวน)

  • ตั้งค่าเสียงของแอป: ไปที่ การตั้งค่า > การแจ้งเตือน และเลือกแอปที่ต้องการตรวจสอบว่ามีเสียงแจ้งเตือนเปิดอยู่

  • ปิด Bluetooth: หากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสียงผ่าน Bluetooth อาจทำให้เสียงแจ้งเตือนไม่ออกจากลำโพง

  • อัปเดต iOS: บางครั้งปัญหามาจากซอฟต์แวร์ ควรตรวจสอบว่า iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด

2. ฉันจะเข้าถึงศูนย์การแจ้งเตือนบน iPhone ได้อย่างไร

สามารถเข้าถึงศูนย์การแจ้งเตือนบน iPhone ได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้:

สำหรับ iPhone ที่ไม่มีปุ่มโฮม (Face ID): ปัดลงจากมุมบนซ้ายของหน้าจอ

สำหรับ iPhone ที่มีปุ่มโฮม (Touch ID): ปัดลงจากขอบด้านบนของหน้าจอ

ดูการแจ้งเตือนที่เก่า: ปัดขึ้นในศูนย์การแจ้งเตือนเพื่อดูข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน

3. ฉันจะตั้งค่าการเข้าถึงบน iPhone ได้อย่างไร

สามารถตั้งค่าการเข้าถึง (Accessibility) บน iPhone ได้ตามนี้:

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง

ขั้นตอนที่ 2: เลือกฟีเจอร์ที่ต้องการเปิดใช้งาน เช่น:

  • VoiceOver (อ่านหน้าจอ)

  • การขยายขนาดตัวอักษร

  • การตั้งค่าปุ่มโฮมและการสัมผัส

ขั้นตอนที่ 3: ปรับแต่งค่าต่าง ๆ ตามต้องการ

บทสรุป

เราหวังว่าบทความของเรา จะช่วยให้คุณไม่พลาดการแจ้งเตือนไอโฟน เพื่อทำให้คุณรับข้อมูลข่าวสาร และข้อความต่าง ๆ ได้ทันที สำหรับใครที่แก้ไขปัญหาเบื้องต้นตามวิธีที่เรานำเสนอแล้ว และยังคงเกิดปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือน หรือไอโฟนไม่มีเสียงแจ้งเตือน

เราขอแนะนำ “iMyFone Fixppo” เพราะเป็นเครื่องมือที่พิเศษ สามารถแก้ไขปัญหาระบบ iOS ได้ทั้งสิ้น ช่วยให้คุณเป็นมืออาชีพได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังไว้วางใจได้อย่างแน่นอนว่า ปัญหาการแจ้งเตือนไม่ขึ้นหน้าจอ iPhone ของคุณ จะได้รับการแก้ไข 100% ดังนั้น อย่ารอช้า! รีบดาวน์โหลดไปใช้งานด้วยตนเองได้แล้ววันนี้!